วานนี้ 11 มีค. 63 กรมศุลกากรมีการแถลงข่าวประจำเดือนมีนาคม 2563 โดยชี้แจงว่าข่าวในโซเชียลมีเดีย เรื่อง หน้ากากอนามัย จำนวน 5 ล้านชิ้นถูกกัก ซึ่งกรมศุลกากรขอแบ่งจำนวน 2 ล้านชิ้นนั้นไม่เป็นความจริง และสื่อมวลชนได้มีการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับในประเด็นสถิติการนำเข้าส่งออก-หน้ากากอนามัยในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2563 โดยมีการเขียนข่าวว่ามีการส่งออกหน้ากากอนามัยเป็นจำนวน 330 ตัน
ทั้งนี้ กรมศุลกากรขอชี้แจงว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขจากพิกัดศุลกากร โดยรวมสินค้าชนิดอื่นนอกจากหน้ากากอนามัยอีกหลายชนิด อาทิ ชุดผ้าหุ้มเบาะ เชือกผูกรองเท้า ผ้ากันเปื้อน ผ้าคลุม สายคล้องคอทำด้วยผ้าทอ เป็นต้น โดยที่ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขในช่วงเดือนมกราคมถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ก่อนที่จะมีประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่อง การควบคุมการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งหน้ากากอนามัย ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัย เพื่อลดการขาดแคลนหน้ากากอนามัยในประเทศ
ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยนับตั้งแต่กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศควบคุมการส่งออกหน้ากากอนามัยตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา มีปริมาณการส่งออกน้อยมาก
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลความผิดพลาดของโฆษกกรมศุลกากรและการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทำให้วันนี้ (12 มีค.) อธิบดีกรมการค้าภายในจะต้องดำเนินการแจ้งความจับกุมโฆษกกรมศุลกากร ผู้ที่ให้ข้อมูลและสื่อสารผิดพลาด