สถานการณ์ ผู้ติดเชื้อโควิด19 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย เป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ (ญี่ปุ่น 1 ราย, สหราชอาณาจักร 1 ราย, เยอรมนี 1 ราย, คูเวต 1 ราย, อินเดีย 2 ราย) ตรวจพบจากการคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานฯ และจากสถานกักตัวที่รัฐกำหนด มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 4 ราย ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,445 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 94.80 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 130 ราย หรือร้อยละ 3.58 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 59 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,634 ราย

สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจาก

ญี่ปุ่น 1 ราย เพศชาย อายุ 57 ปี สัญชาติญี่ปุ่น อาชีพ พนักงานบริษัท เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 20 กันยายน 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 1 ตุลาคม 2563 (วันที่ 11 ของการกักตัว) มีอาการไอ ปวดศีรษะ และเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานค

สหราชอาณาจักร 1 ราย เพศหญิง อายุ 32 ปี สัญชาติไทย เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 3 ตุลาคม 2563เข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 8 ตุลาคม 2563 (วันที่ 5 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย ได้เข้าสู่ระบบกักตัวและรับการรักษาที่โรงพยาบาล

เยอรมนี 1 ราย เพศชาย อายุ 53 ปี สัญชาติเยอรมัน อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางถึงประเทศไทยวันที่3 ตุลาคม 2563 เข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร พบเชื้อจากการตรวจครั้งแรก วันที่ 8 ตุลาคม 2563 (วันที่ 5 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดนนทบุรี โดยก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 1 ราย ได้เข้าสู่ระบบกักตัวและรับการรักษาที่โรงพยาบาล

คูเวต 1 ราย เพศชาย อายุ 34 ปี สัญชาติไทย อาชีพพนักงานนวด เดินทางถึงประเทศไทยวันที่ 4 ตุลาคม 2563 ได้รับการคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค (PUI) มีอาการไอ เจ็บคอ ทำการตรวจหาเชื้อผลพบเชื้อ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ

อินเดีย 2 ราย มีสัญชาติอินเดีย เดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 25 กันยายน 2563 ทั้ง 2 รายเข้ากักตัวในสถานที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) ในกรุงเทพมหานคร ก่อนหน้านี้พบผู้ติดเชื้อจากเที่ยวบินเดียวกัน 8 ราย ทุกรายเข้าสู่ระบบกักตัวและรับการรักษาที่โรงพยาบาล
รายแรก เพศหญิง อายุ 31 ปี เดินทางมาพร้อมบุตร เพื่อมาหาสามี พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 2 วันที่
8 ตุลาคม 2563 (วันที่ 13 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดนนทบุรี

รายที่ 2 เพศชาย อายุ 36 ปี อาชีพพนักงานบริษัท พบเชื้อจากการตรวจครั้งที่ 3 วันที่ 8 ตุลาคม 2563 (วันที่ 13 ของการกักตัว) ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานคร มีประวัติเคยติดเชื้อโควิด 19 ในเดือน สิงหาคม 2563

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ทั่วโลก ขณะนี้มีประเด็นน่าสนใจที่นายกรัฐมนตรีของอิตาลีได้ประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะทั่วอิตาลี “เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ” ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจต้องชำระค่าปรับสูงสุดครั้งละ 1,000 ยูโร (36,750.38 บาท) มาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 “เป็นอย่างน้อย” แสดงให้เห็นว่ามาตรการการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้จนเป็นที่ยอมรับและประจักษ์ให้เห็นในหลายประเทศ

สำหรับประเด็นการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคบริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ได้รับรายงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตากว่า จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่ อำเภอแม่สอด โดยการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ใน 5 อำเภอชายแดน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลแม่สอด และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ตั้งจุดตรวจโควิด 19 บริการฟรี ตรวจในกลุ่มคนขับรถขาเข้าทั้งไทย และเมียนมา โดยให้คนขับรถทุกคนลงจากรถเพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจ รพ.แม่สอด รวมจำนวน 115 คน ผลการดำเนินงานแต่วันที่ 8 – 9 ตุลาคม 2563 ตรวจพบสารพันธุกรรมจำนวน 2 ราย ขณะนี้ทางการเมียวดี ได้รับตัวผู้ป่วยทั้ง 2 ราย เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเมียวดีแล้ว สำหรับผู้สัมผัสที่ทำงานในโรงงานเดียวกัน 100 คน ทั้งหมดได้ถูกส่งเข้า state quarantine ของประเทศเมียนมา ส่วนฝั่งประเทศไทยกำลังเร่งติดตามค้นหาผู้สัมผัสเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดประสานงานและให้ความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ในการป้องการแพร่เชื้อข้ามพรมแดนด้วยระบบเฝ้าระวังกักกันที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลสุขภาพอนามัยประชาชน ขอเน้นย้ำว่าความปลอดภัยของบุคลากรสาธารณสุข ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ขอให้บุคลากรสาธารณสุข อสม.ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความปลอดภัย และเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

สมาชิกคุกเพิ่มอีก 2! ศาลไม่ให้ประกันตัว “ทิดแย้ม – อรัญญาวรรณ” เครียดเจอ 11 กระทง

ศาลคัดค้านประกันตัว “อรัญญาวรรณ”  เจ้าตัวเครียดเจอ 11 กระทง อาจติดคุกมากกว่า 50 ปี ส่วน “ทิดแย้ม” ทนายไม่ยื่นประกัน คุมส่งตัวเข้าเรือนจำ

เปิดตัวละครลับ หมอเตย ขาใหญ่วัดไร่ขิง คือใคร ทำไม ทิดแย้ม บาคาร่า ปล่อยดูแลเงิน

เปิดตัวละครลับ หมอเตย ขาใหญ่วัดไร่ขิง คือใคร ทำไม ทิดแย้ม ให้ดูแลเงินเป็นล้าน แถมเกรงใจเป็นพิเศษ คาดมีผลประโยชน์ร่วมกัน

เปรมชัย นอนคุก คืนแรกเฝ้าดูอาการเป็นผู้สูงอายุ ไม่มีพิเศษระดับวีไอพี

นอนคุกคืนแรก 14 ผู้ต้องหา สตง. ถล่มแยก 2 ห้องขัง “เปรมชัย-พิมล” ประเมินเป็นผู้สูงอายุ ส่งเฝ้าดูอาการสถานพยาบาล

เปิดวาร์ปคนไทยที่เคยไปเฉิดฉายบนพรมแดนระดับโลก เมืองคานส์

ใครเคยไป เมืองคานส์ มาแล้วบ้าง เปิดวาร์ปคนไทยที่เคยไปเฉิดฉายบนพรมแดนระดับโลก จะสวยเริ่ดกันขนาดไป ไปดูกัน

ใบ้กินพูดไม่ออก! คุมตัว ทิดแย้ม – สีกาแซ่บ ฝากขัง โทษหนัก

คุมตัว “ทิดแย้ม” และ “สีกาคนสนิท” ฝากขัง ปิดปากเงียบปมฉกเงินวัดเล่นพนัน ขณะที่ตำรวจคัดค้านประกันตัว หวั่นหลบหนี

เฉลย สายลับวัดไร่ขิง คือใครกันแน่ โคตรพีคคือคนอ่านหมายค้น

เปิดตัว สายลับวัดไร่ขิง คือ ผู้กอง ฝีมือไม่ธรรมดาทำคดีใหญ่มาเพียบ สุดพีคคือคนอ่านหมายค้น เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เองด้วย
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า