เรืองไกร หิ้วแผนที่แฉพิรุธที่ดิน 1,700 ไร่ ปารีณา บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน จี้นายกฯจัดการเพราะเพิกเฉยไม่ได้
วานนี้ (13 พ.ย.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ออกมาแถลงพร้อมนำแผนที่ประกอบกรณียื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบที่ดินหมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 1,700 ไร่เศษ รุกพื้นที่ป่าสงวน
นายเรืองไกร ระบุว่า หลังจากที่ตนยื่นเรื่องของให้คณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กรณีครอบครองที่ดินถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยประเด็นที่น่าสนใจ คือ การยื่นบัญชีทรัพย์สินของ น.ส.ปารีณา ว่า ครอบครองที่ดินลำดับที่ 19-76 รวม 58 แปลง แสดงมูลค่าโดยรวม 2 แสนบาท คำนวณตกไร่ละ 117 บาท หรือตารางวาละ 29 สตางค์ ซึ่ง น.ส.ปารีณาอธิบายว่า ที่ดินทั้งหมดเป็น ภบท.5 โดยระบุหมายเลขแต่ละแปลงแตกต่างกันไป เช่นลำดับที่ 19 หมายเลข7/49 และลำดับที่ 20 หมายเลข 7/49 ซึ่ง น.ส.ปารีณาได้ลงหมายเลขพื้นที่แต่ละแปลงไว้เหมือนกันหมด รวมที่ทั้งหมด 1,706 ไร่ 1 งาน 50 ตารางวา นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือตำแหน่งที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เหมือนกันหมด
“เหตุที่ตนเพิ่งจะมาร้องในตอนหลังนั้น เพราะชาวบ้าน จ.ราชบุรี ไปร้องขอคืนที่ดินที่ ต.รางบัว กรณีของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประมาณ 500 ไร่ ในวันนั้น น.ส.ปารีณา พาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ไปด้วย ในกรณีนางสมพรก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะไม่ใช่นักการเมือง จากนั้นตนก็จำได้ว่าเอกสารของ น.ส.ปารีณา ที่ตนเก็บไว้ก็อยู่ในพื้นที่ตำบลดังกล่าวเช่นกัน ตนจึงสงสัยว่าเหตุใด น.ส.ปารีณาจึงนำที่ดินดังกล่าวไปแจ้งแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ได้ จึงได้ใช้สิทธิตามมาตรา 106 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. ขอให้มีการตรวจสอบ เมื่อยื่นก็ได้ทราบว่าเป็นที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี และกาญจนบุรี ก็สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้าไปตรวจสอบว่าเข้าไปครอบครองได้อย่างไร ต่อมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ลงมาตรวจสอบว่าเป็นที่ ส.ป.ก.หรือไม่”
“ประเด็นเหล่านี้ขอฝากไปถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ท่านจะเพิกเฉยไม่ได้ และฝากไปยังรมว.ทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงร.อ.ธรรมนัส ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ตามข้อมูลที่ผมให้โดยเปิดเผย และหากป.ป.ช.พิจารณาแล้วดำเนินการอย่างไรก็ต้องว่ากันไป ไม่เกี่ยวกับฝ่ายบริหาร” นายเรืองไกร กล่าว