สถาบันสุขภาพแห่งชาติ ของสหรัฐ ประกาศการทดลอง วัคซีนโควิด-19 อยู่ในระยะที่ 3 โดยใช้ชื่อว่า เอแซดดี1222 (AZD1222) แบะได้เริ่มต้นแล้วในหลายพื้นที่ของประเทศ
สถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานว่า การทดลองดังกล่าวเปิดรับอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่ประมาณ 30,000 คน ณ จุดทดลอง 80 แห่งในสหรัฐฯ เพื่อประเมินว่าวัคซีนข้างต้นสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ โดยอาสาสมัครจะถูกสุ่มแบ่งออกเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนหรือยาหลอก ทั้งผู้วิจัยและผู้เข้าร่วมจะไม่ทราบว่าใครถูกกำหนดให้อยู่กลุ่มใด
หลังจากการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ผู้เข้าร่วมจะเข้ารับการฉีดวัคซีนหรือยาหลอกที่เป็นน้ำเกลือเปล่า จำนวน 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ โดยอัตราส่วนอาสาสมัครที่ได้รับยาหลอกกับวัคซีนเอแซดดี1222 อยู่ที่ 1 ต่อ 2 ส่งผลให้มีผู้ได้รับวัคซีนจริงประมาณ 20,000 คน และได้รับยาหลอก 10,000 คน
โดยการทดลองครั้งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่าวัคซีนเอแซดดี1222 สามารถป้องกันโรคโควิด-19 แบบแสดงอาการได้หรือไม่ หลังจากได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส
ด้านแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) บริษัทเภสัชภัณฑ์ระดับโลกที่มีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร เป็นผู้นำการทดลองในฐานะผู้สนับสนุนด้านข้อบังคับ ส่วนสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) สังกัดสถาบันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐฯ รวมถึงสำนักวิจัยและพัฒนาชีวการแพทย์ขั้นสูง (BARDA) เป็นผู้สนับสนุนเงินทุนสำหรับการทดลอง
ทั้งนี้สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ เสริมว่าวัคซีนข้างต้นทำงานโดยใช้อะดิโนไวรัสชนิดไม่แบ่งตัวของลิงชิมแปนซีในการส่งมอบสไปก์โปรตีน (spike protein) หรือโปรตีนหนามของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) เพื่อกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
ภาพ : xinhuathai