ศาลอาญาธนบุรี พิพากษา จำคุก แก๊งงานบวชวัดสิงห์ บุกรุกโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ เจอโทษหนักจำคุกทุกคน
วานนี้ (30 ก.ย.) ศาลอาญาธนบุรี มีคำพิพากษาในคดีกลุ่มวัยรุ่น บุกรุก-ทำร้ายร่างกายครูและนักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ระหว่างการสอบ GAT-PAT เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2562
จากคดีที่ โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2562 เวลาประมาณ 14.30 น. ขณะที่มีการสอบ GAT/PAT ภายในโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ จำเลยทั้ง 22 คน ร่วมกันกระทำความผิดฐานมั่วสุม ตั้งแต่ 10 คน ขึ้นไป เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ ร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายรวม 15 คน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ของผู้เสียหาย 2 คน ร่วมกับข่มขืนใจผู้อื่นฯ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด และจำเลยที่ 2 กระทำความผิดฐานกระทำอนาจาร
เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แวดล้อมประกอบแล้ว จำเลยทั้ง 16 คน อยู่ภายในงานบวชด้วยกัน แต่งกายลักษณะเดียวกัน เดินไปที่เกิดเหตุพร้อมกันและในเวลาใกล้ชิดกัน ต่างกระทำความผิดในลักษณะเดียวกัน และกลับออกจากที่เกิดเหตุในเวลาใกล้ชิดกัน จึงฟังได้ว่าจำเลยทั้ง 16 คน เป็นตัวการร่วมกัน ดังนี้ เมื่อตัวการคนใดคนหนึ่งไปกระทำความผิด ตัวการอื่นแม้ไม่ได้ลงมือกระทำด้วย ก็จำต้องรับผลของการกระทำนั้นด้วย โดยถือเอาการกระทำและเจตนาของตัวการผู้กระทำความผิดนั้นเป็นของตน
ทั้งนี้ ในส่วนฐานความผิดนั้น เห็นว่า การร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ก็เพื่อเข้าไปมั่วสุมกันก่อความวุ่นวายขึ้นในโรงเรียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเมือง โดยใช้วิธีขับไล่ครูคุมสอบ และนักเรียนให้ออกจากห้องสอบ อันเป็นการข่มขืนใจผู้อื่นฯ ถือเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษฐานร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่เมื่อครูคุมสอบหรือนักเรียนขัดขืน จำเลยบางคนจึงทำร้ายครูผู้คุมสอบหรือนักเรียนนั้น ๆ หรือทำลายทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหาย นับว่าเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นใหม่ในขณะนั้นหาใช่เจตนาแต่เดิมตั้งแต่ต้น จึงเป็นการกระทำความผิดต่างกรรมกัน เมื่อจำเลยแต่ละคนลงมือกระทำความผิดภายในเจตนาร่วมกันนี้ ตัวการผู้ร่วมกระทำความผิดคนอื่นจึงต้องรับผลของการกระทำความผิดเสมือนเป็นเจตนาและการกระทำของตนด้วย
อย่างไรก็ตาม ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยทั้ง 16 คน ฐานร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย 1 กรรม ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย 10 กรรม ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย 1 กรรม ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ 4 กรรม และบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัด 1 กรรม เมื่อเพิ่มโทษจำเลยที่มีประวัติการกระทำความผิด และลดโทษที่ให้การรับสารภาพในแต่ละข้อหาแยกกันไปแล้ว
จำเลยแต่ละคนได้รับโทษจำคุกดังนี้
จำเลยที่ 1 และที่ 18 จำคุกคนละ 15 ปี 11 เดือน
จำเลยที่ 2 จำคุก 17 ปี 5 เดือน
จำเลยที่ 3 จำคุก 13 ปี 2 เดือน 15 วัน
จำเลยที่ 4 ที่ 10 ที่ 12 และที่ 15 จำคุกคนละ 18 ปี 11 เดือน
จำเลยที่ 7 และที่ 9 จำคุกคนละ 13 ปี 7 เดือน 10 วัน
จำเลยที่ 11 จำคุก 13 ปี 10 เดือน 15 วัน
จำเลยที่ 13 จำคุก 11 ปี 10 เดือน 15 วัน
จำเลยที่ 14 จำคุก 13 ปี 6 เดือน 20 วัน
จำเลยที่ 17 จำคุก 19 ปี 3 เดือน
จำเลยที่ 19 จำคุก 14 ปี 10 เดือน 22 วัน
จำเลยที่ 20 จำคุก 16 ปี 4 เดือน 22 วัน
จำเลยที่ 5 ที่ 6 ที่ 8 ที่ 21 และที่ 22 จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี
ให้จำเลยที่ 1-4,7,9-15,17-20 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ จำนวน 35,400 บาท และแก่ผู้เสียหายที่ 16 จำนวน 56,142.50 บาท
ให้จำเลยที่ 1-4,7,10,12 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 10 จำนวน 35,737 บาท และให้จำเลยที่ 15 ,17 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายที่ 12 จำนวน 55,352.50 บาท ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 16 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก