วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ รอบดึกบัญชีรายชื่อปลอม “ภารกิจ IO” คุกคามประชาชน
วานนี้ (25 ก.พ. 63) เวลา 22.05 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าตนไม่ไว้วางใจ เพราะมีพฤติกรรมคุกคามประชาชน ยุยงปลุกปั่น สร้างความแตกแยก ทำลายความรู้รักสามัคคีของคนในชาติ ไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สมควรดำรงตำแหน่งใดๆ เลยในสภา
ในเฟซบุ๊กมีบัญชีรายชื่อปลอม คุกคามประชาชน ซึ่งเรียกพ้องกับภารกิจทางการทหารว่า IO หรือปฏิบัติการทางข่าวสาร มี 4 ภารกิจ
1.คุกคามประชาชนที่วิจารณ์รัฐบาล โดยขุดประวัติมาโพสต์ประจานมารุมด่า เหมือนล่าแม่มด
2.ประชาชนคนไหนแสดงความคิดเห็นแล้วมีคนชอบก็จะเข้าต่อว่ารุนแรง
3.เข้าไปแชร์ข้อความด่าทอนักการเมือง นักวิชาการ นักสิทธิมนุษยชน สร้างความเกลียดชัง แบ่งแยกและปกครอง
4.นำข้อมูลมิติเดียวมาอวยรัฐบาล กองทัพ เพื่อบิดเบือน และกันประชาชนเข้าถึงข้อมูล

การทำแบบนี้ส่งผลเสียมากมาย โดยเฉพาะการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ความเกลียดชัง แบ่งแยกประชาชนเพื่อสร้างความมั่นคงในการสืบทอดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร การดำเนินการลักษณะนี้หนักข้อ เหมือนมีงบประมาณสนับสนุน ซึ่งด้วยการแกะรอยโดยผู้เชี่ยวชาญ ตนจับได้ทั้งรังแล้ว และโยงใยไปถึง พล.อ.ประยุทธ์
เว็บไซต์ pulony.blogspot.com คอยโจมตีนักสิทธิมนุษยชน มีหลายเพจแชร์ข้อมูลบั่นทอนการเจรจาเพื่อสันติสุขใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ เติมเชื้อไฟแห่งความเกลียดชัง ตอกลิ่มความเคียดแค้นให้ร้าวลึก
โจมตีนักการเมือง เพื่อไม่ให้เอาปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาแก้ปัญหาในสภา

ตนหาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังใครเป็นเจ้าของ ซึ่งการที่ตนได้เป็น กมธ.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 63 ทำให้ได้เอกสารที่ส่งมาโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งขึ้นตรงกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในหน้าที่ 14 เอกสาร พบว่าเว็บไซต์นี้ได้รับงบจาก กอ.รมน. 2560-2562 ทำให้ไว้วางในนายกรัฐมนตรีต่อไปไม่ได้
เรื่องที่ 2 ในโซเชียลมีเดีย มีการสร้างกระแสชังชาติ กระบวนการเหล่านี้เอาเรื่องมาสร้างข่าวเท็จสร้างความเกลียดชัง มีเว็บไซต์สร้างข่าวเท็จโยงใยว่าเป็นพวกส้มคลั่ง และใส่ร้ายเรื่องความจงรักภักดี ต่อมา IO เหล่านี้ไปคุกคามประชาชนที่ไปร่วมกิจกรรมวิ่งไล่ลุง และไม่ใช่แค่โพสต์ มีกองทัพ IO ไปด่าคนที่มาคอมเม้นต์และมีคนกดไลก์จำนวนมาก
ประชาชนสงสัยว่าผู้เป็น IO เป็นทหารหรือไม่ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐเชิญ ผบ.ทบ.มาสอบถามได้รับคำยืนยันว่ากองทัพไม่มีปฏิบัติการนี้ แต่ต่อมามีอาสาสมัครแกะรอย IO กลุ่มนี้ พบวงรอบการปฏิบัติการรายชั่วโมง และตนเจอเอกสารทางราชการ 3 ฉบับ ที่ยืนยันว่ากองทัพเกี่ยวข้อง

เช่น เอกสารราชการสรุปการฝึกอบรมปฏิบัติการข่าวสารที่ กอ.รมน.ภาค 2 มีการสอนเทคนิคการโพสต์ไม่ให้ถูกจับได้ มีการแนะนำให้เจ้าหน้าที่สร้างเฟซอวตารหลายเฟซเพื่อตอบโต้และพลีชีพ มีการสนับสนุนค่าโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต และยังเปิดเผยเอกสารหลักฐานอีก 2 ฉบับโดยบอกว่าพร้อมส่งเลขหนังสือให้นายชวน แต่ต้องให้ความคุ้มครองคนส่งเอกสารให้ตนด้วย
นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า มี IO กลับใจมาเล่าให้ตนฟังถึงความคับแค้นอึดอัดที่ต้องมาทำภารกิจแบบนี้ โดยเปิดคลิปสัมภาษณ์บุคคลที่อ้างว่าเป็นหน่วย IO ซึ่งในคลิปบอกว่า ทำหน้าที่โพสต์ด่า โพสต์ช่วยรัฐบาล รีพอร์ตเพจที่ต่อต้านรัฐบาล ทำตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง

เขายังแสดงข้อมูลอ้างว่า IO ยังพยายามทำลายความน่าเชื่อถือหลังการแถลงข่าว 1MDB ของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และยังแสดงข้อมูลการทำงานของ IO ที่ต้องมีการรายงานผลเป็นระยะ
นายวิโรจน์ กล่าวว่า เขาเชื่อว่า IO ไม่อยากทำและไม่เต็มใจทำ เพราะถ้าเต็มใจข้อมูลคงไม่รั่วมาถึงตน และไม่มีโอกาสมากระชากหน้ากากกลางสภา ถ้าประชาชนเจอ IO เหล่านี้ขอให้เข้าทักทายด้วยความเข้าใจกัน และตนยืนยันว่าปฏิบัติการทั้งหมดนี้ไม่ใช่หน้าที่ของกองทัพ ที่มายุยงประชาชนปลุกปั่นให้แตกแยก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ตนไม่อาจไว้วางใจให้นายกรัฐมนตรีคนนี้อยู่ในตำแหน่งได้อีกต่อไป
อ่านข่าว Bright Today