จากกรณีโจรใต้ จำนวน 7 คน แต่งชุดเลียนแบบคล้ายเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธครบมือ บุกจับนักการภารโรงและเจ้าหน้าที่กูภัยประจำ อบต.โฆษิต รวม 3 คน เหตุเกิดที่ ม.4 ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อกลางวันของวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมจับตัวบุคคลทั้ง 3 คน มัดมือเท้าใช้ผ้าปิดปาก จากนั้นจึงทำการเผารถยนต์กู้ภัยของ อบต.ได้รับความเสียทั้งคัน จากนั้นคนร้ายจึงกรูเข้าไปในอาคารวางเพลิงซ้ำก่อนจะนำรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีเทา ทะเบียน กค 8906 ขับหลบหนีไป เพื่อนำรถยนต์คันดังกล่าวไปประกอบระเบิดบรรจุไว้ในถังแก้ส จำนวน 2 ถัง น้ำหนัก 66 กก. และ 63 กก. น้ำมันเชื้อเพลิงบรรจุในถังขนาด 5 ลิตร รวม 4 ถัง พร้อมอุปกรณ์จุดชนวนระเบิดแล้วนำไปซุกไว้ในห้องโดยสารของรถกระบะคันดังกล่าว แล้วนำไปจอดไว้ที่บริเวณใกล้กับฐานปฏิบัติการย่อยทหารพรานที่ 4806 ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านโคกสะยา ม.5 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
จนเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหน่วยเยี่ยวดง นปพ.จ.นราธิวาส สามารถเก็บกู้และยิงทำลายวงจรระเบิดได้ พร้อมยึดอุปกรณ์ระเบิดทั้งหมดนำไปตรวจสอบและเก็บเป็นหลักฐานพร้อมคราบลายนิ้วมือแฝงและดี.เอ็น.เอ.ของคนร้ายทั้ง 2 จุด คือ 1.ลายนิ้วมือแฝงบนถังแก้สทั้ง 2 ถัง พร้อมถังน้ำมัน แผงวงจร พวงมาลัยรถยนต์ เบาะที่นั่ง และบริเวณภายในห้องโดยสารทั้งหมด 2.จุดเกิดเหตุที่บริเวณอาคาร อบต.โฆษิต ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงอาคาร รถยนต์กู้ภัย และจุดเกิดเหตุที่คนร้ายมัดตัวเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน ก่อนที่จะวางเพลิงรถยนต์กู้ภัย และนำหลักฐานถังเชื้อเพลิงที่พบบริเวณด้านหลังอาคารที่คนร้ายนำมาทิ้งไว้หลังปฏิบัติการ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับลายนิ้วมือแฝงในประวัติอาชญากรรมและแฟ้มประวัติของกลุ่มคนร้ายในพื้นที่อย่างละเอียดด้วย
เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงในพื้นที่รายหนึ่ง (ขอสวนนาม) ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการปฏิบัติการของคนร้ายกลุ่มนี้ว่า เป็นการทำงานที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้ามาอย่างดี โดยก่อนปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้มีการดูลาดเลามาอย่างดี และรู้เรื่องความเคลื่อนไหวและติดตามพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ประจำ อบต.โฆษิต รวมทั้งรู้ว่าควรจะทำช่วงไหนที่ไม่มีการลาดตระเวรและปลอดเจ้าหน้าที่ โดยการปล้นรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู ประจำ อบต.โฆษิต ในครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะนำไปประกอบระเบิดเพื่อนำไปล่อเจ้าหน้าที่ทหารพรานขณะออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อ รปภ. ครูในช่วงข้าวของวันที่ 26 ก.พ. แต่บังเอิญเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ได้พบเห็นรถต้องสงสัยคันดังกล่าวก่อนที่จะถึงเวลาที่คนร้ายคาดไว้ล่วงหน้า จึงถือว่าปฏิบัติการในครั้งนี้ล้มเหลว และเชื่อว่า คนร้ายกลุ่มนี้มีความชำนาญในเรื่องของการประกอบ และวางระเบิดคาร์บอมบ์ มาเป็นอย่างดี ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต้องใช้ความพยายามอีกอย่างแน่นอน และด้วยที่มีความชำนาญในเส้นทางและเลือกเป้าหมายที่จะกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ คาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะมีแนวร่วมในพื้นที่คอยให้ความช่วยเหลืออย่างแน่นอน อีกทั้งการนำรถยนต์ไปประกอบระเบิดนั้นน่าจะใช้พื้นที่ใกล้เคียงเป็นที่ประกอบโดยนำระเบิดที่บรรจุไว้เรียบร้อยแล้วเตรียมพร้อมทุกเมื่อที่มีรถยนต์
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัครรักษาดินแดน จ.นราธิวาส ตรวจเข้มตามจุดตรวจทั้งจังหวัดเพื่อสกัดการนำวัตถุระเบิดและอาวุธปืน รวมถึงยาเสพติดแอบเข้ามาในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สวบซ้ำอีก โดยเน้นตรวจบัตรประชาชน และผู้ต้องสงสัยของบุคคลตามหมายจับ หมาย พ.ร.บ.ที่เคลื่อนไหวย้ายเข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวด สำหรับรถจักรยานยนต์ทุกคัน เจ้าหน้าที่จะทำการเปิดเบาะเพื่อตรวจความผิดปกติที่อาจจะบรรจุแฝงเข้ามาในพื้นที่