หหมอธีระ วิเคราะห์สถานการณ์โควิดในไทยทบทวนบทเรียนประเทศอื่น พร้อมแนะ 4 มาตรการ เพิ่มความเข้มข้น ยกระดับการตัดวงจรระบาด
เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 64 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
วิเคราะห์สถานการณ์ของไทยจาก 222 ประเทศ ยอดติดเชื้อใหม่ของไทยเมื่อวานนี้สูงเป็นอันดับ 11 ของโลก จำนวนเสียชีวิตใหม่สูงเป็นอันดับ 13 ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤติมีมากเป็นอันดับ 7
แต่หากดูในทวีปเอเชีย 49 ประเทศ ไทยเรามีจำนวนติดเชื้อใหม่เป็นอันดับ 5 จำนวนผู้เสียชีวิตใหม่เป็นอันดับ 7 ส่วนจำนวนผู้ป่วยรุนแรงและวิกฤตินั้นสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย
ด้วยสถานการณ์ระบาดแต่ละวันที่รุนแรงต่อเนื่องเช่นนี้ ลองทบทวนบทเรียนของประเทศอื่นๆ ที่มีอันดับเหนือกว่าเรา จำนวน 42 ประเทศลักษณะการระบาดของไทยมีความคล้ายกับบังคลาเทศและมาเลเซีย แต่เราหนักกว่าเค้าในระลอกนี้ และคงต้องพยายามช่วยกันทำทุกทางเพื่อที่จะตัดวงจรการระบาดให้ได้
ต้องไม่ให้ระลอกสามนี้นำไปสู่การระบาดยาวนานแบบบราซิลจากบทเรียนต่างประเทศที่เคยมีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ระดับ 20,000 คนต่อวัน มีโอกาสน้อยมากที่จะสามารถจัดการการระบาดกดให้ถึงระดับ 5,000 คนต่อวันได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ ที่พบคือ เบลเยี่ยม และแอฟริกาใต้แต่นอกนั้นล้วนต้องใช้เวลายาวนานตั้งแต่ 6 สัปดาห์ขึ้นไปจนถึงหลายเดือน
ความแตกต่างของเงื่อนเวลานั้นขึ้นกับระดับความเข้มข้นของมาตรการที่จะตัดวงจรการระบาดของโรค หลักการแบบเดียวกันกับที่ทุกคนทราบดีคือ
หนึ่ง หยุดการเคลื่อนไหวระดับประเทศ
สอง ปิดกั้นความเสี่ยงไม่ให้มีการเข้าออกพื้นที่และประเทศ
สาม ปูพรมตรวจให้ครอบคลุม ต่อเนื่อง และรวดเร็ว เพื่อหาผู้ติดเชื้อและแยกออกจากคนที่ไม่ติดเชื้อ แล้วนำเข้าสู่ระบบการดูแลรักษา
สี่ การใช้วัคซีนประสิทธิภาพสูง ปริมาณมากเพียงพอ และครอบคลุมหากทราบหัวใจหลัก
ทั้ง 4 ข้อข้างต้น เราคงต้องนำมาประเมินว่าของไทยเรานั้นยังมีจุดอ่อนต่างๆ หรือไม่ ที่อาจส่งผลให้ไม่สามารถตัดวงจรการระบาดได้หรือมีการระบาดต่อเนื่องยาวนานสำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้มีกำลังใจ ตั้งเป้าป้องกันตัวเองและครอบครัวอย่างเต็มที่ อย่าให้ติดเชื้อใส่หน้ากากนะครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมากด้วยรักและห่วงใย
ข่าวที่น่าสนใจ
รพ.กรุงเทพ เตือน อย่าลงทะเบียน จองวัคซีนไฟเซอร์ หลังมิจฉาชีพปลอมแปลงเว็บ
รพ.สนามธรรมศาสตร์ คาดหากรัฐยังไม่เร่งทำอะไร เดือนนี้จะไม่มีทั้งวัคซีน เตียง และยา ให้คนไทย