แคน นายิกา เป็นอีกหนึ่งไอดอลที่มีจุดยืนด้านการเมืองชัดเจน โดยสาวน้อยอดีตเมมเบอร์ไอดอลแนวหน้าของไทยอย่าง BNK48 คนนี้ เขาเตรียมพร้อมลงมาสัมผัสกับงานด้านการเมืองแบบเต็มที่ อย่างที่ผ่านมา ก็ได้มีส่วนเข้าไปเป็นหนึ่งที่ปรึกษาอนุกรรมาธิการศึกษาอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมและอีสปอร์ต จนทำเอาเหล่าแฟนๆ และชาวเน็ตต่างก็ขอชื่นชม
ล่าสุดเธอได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเส้นทางที่เธอเลือกเดินจุดเริ่มต้นของการเป็นนักการเมือง ของพรรคการเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ พรรคก้าวไกล ผู้ที่ลั่นวาจาว่า “พิสูจน์ตัวเองค่ะ พิสูจน์ตัวเองว่าเราเหมาะสมพอไหม”
แคน นายิกา ขอผันตัว มุ่งเดินหน้าเส้นทางการเมือง จับมือร่วมงานพรรคก้าวไกล
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวได้เผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊กเพจ พรรคก้าวไกล – Move Forward Party ซึ่งระบุว่า
Q: การเป็นคนชอบตั้งคำถามทำให้แคนแคนสนใจอยากทำงานกับพรรคก้าวไกลมากแค่ไหน?
.
A: โหววว มากที่สุดเลย เพราะว่า การได้มาทำงานกับพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ทำให้เราตระหนักถึงคำถามมากมาย เวลาเราอ่านตามเพจเฟสบุ๊ก เวลาที่เราเห็นเขาอภิปราย จะรู้สึกว่าพรรคนี้เป็นพรรคที่ทำให้เรารู้สึกอยากตั้งคำถามต่อสังคม ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น เรารู้สึกว่าอุดมการณ์ของเราและของพรรคใกล้เคียงกัน
.
Q: อย่างไรคะ? ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อย
.
A: ยกตัวอย่างนะ ตอนนี้พรรคเป็นพรรคฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายค้านก็จะมีหน้าที่ตั้งคำถามกับรัฐบาลว่าคุณงบประมาณตรงนี้ ไปอยู่ที่ไหน อย่างน้อยเราอาจจะไม่ได้บอกว่าคุณต้องทำอย่างนี้นะ อย่างน้อยก็เสนอแนะ แต่การตั้งคำถามอย่างน้อยก็ทำให้เกิดการตรวจสอบ เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีการตั้งคำถามเกิดขึ้น ทำให้เรากลับไปศึกษาเพิ่มเติมได้
.
และโดยนิสัยส่วนตัวจะมีการตั้งคำถามอยู่ในใจ แต่บางครั้งก็จะมีนิสัยที่แบบว่า มันต้องเป็นแบบนี้สิ เพื่อนๆ ในทีมก็จะมาเบรกเรา คุณคิดแบบนี้สิ ทำให้มีการตั้งคำถามกลับ ทำให้เราติดนิสัย ถกเถียงกัน ตั้งคำถามใส่กันบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างรวดเร็วค่ะ

Q: การที่แคนแคนเป็นบุคคลสาธารณะมาก่อน คิดว่ามันมีปัญหาในทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน?
.
A: การที่เราเป็นบุคคลสาธารณมาก่อน คือก่อนที่จะมาทำตรงนี้ แคนเป็นคนที่ชอบจิตอาสามาก ชอบค่ายอาสา อยากพัฒนาชุมชน อยากลงไปเห็นว่าปัญหาในประเทศไทยมีอะไรบ้าง เราก็ลงไปเห็นปัญหาชาติพันธุ์ เพื่อนเราที่อยู่นั่น ก็มีแม้กระทั่งไม่ได้รับสัญชาติ เราชอบท่องเที่ยวเดินทาง วันหนึ่งเราเป็นบุคคลสาธารณะ เราไปต่างจังหวัด มีคนรู้จักเรา มีคนมาขอความช่วยเหลือจากเรา มีคนมาแบบเจอเราแล้วร้องไห้ใส่เรา เรารู้สึกว่าการที่คนรู้จักเราระดับประเทศมันสำคัญยังไง เรารู้สึกถามตัวเองกลับว่า แล้วเราทำล่ะ เราจะทำอะไรกลับให้พวกเขาได้บ้าง
.
จริงๆ แคนลงพื้นที่ก่อนจะมาทำตรงนี้ (งานการเมือง) เป็นมาตั้งแต่ปี 1-2 จนกระทั่งมีชื่อเสียงเลย มันติดเป็นนิสัยว่าเราอยากจะไปพัฒนาที่ไหนๆ บ้าง รับฟังปัญหาที่หลากหลายในประเทศไทย
บทสัมภาษณ์ตัวเต็ม คลิกที่นี่