อั๋น ภูวนาท ออกมาชี้แจงอีกครั้ง ปมแซว น้องแดน และถูกชาวเน็ตโยงว่าเพราะมีปัญหากับ จอง-คัลแลน เจ้าตัวลั่นชัดเจน อันนี้คือเฟคนิวส์!
เรียกได้ว่าเป็นดรามาที่ลากยาวมาสักพักแล้ว สำหรับประเด็นที่พิธีกรชื่อดังอย่าง อั๋น ภูวนาท ได้พูดแซว น้องแดน หรือ คิมอินฮยอน น้องเล็กจากช่องยูทูบ Cullen Hateberry ที่ได้มาร่วมงานอีเวนต์ โดยใส่สูทสีม่วงโด่นเด่น อั๋น ภูวนาท จึงได้เอ่ยแซวในทำนองว่า “ไม่อ่านไลน์กลุ่มเพื่อน แต่งตัวไม่เข้าธีม” และไม่ได้เรียกชื่อของ น้องแดน ประเด็นนี้จึงสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนคลับเป็นอย่างมาก และถูกวิพากษ์วิจารณ์กระหน่ำโซเชียล

อั๋น ภูวนาท ชี้แจงอีกครั้ง ปมแซว น้องแดน
ล่าสุด อั๋น ภูวนาท ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนอีกครั้งถึงดรามาดังกล่าว อีกทั้งยังถูกชาวเน็ตโยงไปถึงดรามาเก่า ที่ อั๋น ภูวนาท เคยโดนทัวร์ลง เพราะพูดเรื่องค่าตัวพี่จอง-คัลแลน รับสักงานเรียกค่าตัวเป็นล้าน เจ้าตัวเอาเรื่องนี้มาปนกันหรือเปล่า ? ซึ่ง อั๋น ภูวนาท ก็ได้ชี้แจงอย่างละเอียดว่า “อั๋น คิดว่านี่เป็นการโดนทัวร์ลงครั้งแรกในชีวิต ไม่เชิงว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ เพราะเราก็อยู่ในวงการมานาน คิดว่าไม่มีเรื่องใดในโลกที่เราควรเลี่ยงที่จะพูดถึงกัน ทุกเรื่องน่าจะคุยกันได้แล้วจบได้ทั้งหมด ถามว่าคุยได้ไหม คุยได้ เพราะมันไม่มีอะไรสำหรับ อั๋น และคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควรมีอะไร เพราะมันไม่ได้เกิดจากเจตนาที่ไม่ดี ไม่ว่าจะของใคร และตัวน้องศิลปินไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะฉะนั้นดึงเขาออกไปวางไว้ก่อน ถ้าคุณรักเขา เขาไม่อยู่ในสมการ ตัวเจ้าภาพที่จัดงานไม่มีปัญหา ตัวลูกค้าไม่มีปัญหา อั๋นก็ไม่มีปัญหา ซึ่งเราไม่ได้บอกว่าเพราะคุณคือปัญหา แต่อั๋นคิดว่ามันไม่ควรเป็นเรื่องมีปัญหา ไม่ได้คิดว่าในทั้งหมดไม่มีใครที่เจตนาไม่ดีเลย
คิดว่ามีสองประเด็นหลัก หนึ่งคือ อั๋น ไม่เรียกชื่อ ทำไมเรียกว่าผู้ชายคนนั้น ถ้าหลักๆ คือคลิปนั้นน่ะ มีคนส่งมาให้ อั๋นเยอะพอสมควร หลังจากจบคลิปนั้นอันแรกที่ อั๋น ตอบคือคุณอยู่ในงานหรือเปล่า ไม่ได้ถามเพราะกวนนะ แต่หลังจากจบงาน หลังจากจบที่เขาตัดมา สิ่งที่ อั๋น ทำคือเชิญผู้บริหารขึ้นกล่าวเปิดงาน หลังจบจากกล่าวเปิดงานศิลปินทั้งหมดขึ้นบนเวที อั๋น พูดชื่อนามสกุล สปอนเซอร์ครบทุกคน

ถ้าถามว่าทำไมไม่เรียกชื่อ หลังจากนั้นก็เรียกไง แต่เขาไม่ตัดตรงที่เรียกมา จริงๆ ในงานตอนขึ้นไปบรีฟของเราคือ ทักใครก็ได้แค่ 3 คนจากดาราทั้งหมด ทีมงานบอกว่าทักใครก็ได้ แต่อย่าทักเยอะนะ เดี๋ยวงานยาว ต้องกระชับ เราก็เอ๊ะจะทักใครดีล่ะ เขาก็จดชื่อมา อั๋น มีชื่อทุกคนอยู่ในมือ ซึ่งในโลกยุคนี้ไม่แปลกใจถ้าเราจะไม่ได้รู้จักกัน เจตนาคือเราตั้งใจจะรู้จักกันหรือเปล่า อั๋น มีเจตนาตั้งใจจะรู้จักกัน อั๋น ยังเดินเข้าไปถามแฟนคลับเลยว่าอ่านออกเสียงให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม ว่าคนนี้ออกเสียงว่ายังไง นี่ไม่ได้มาแก้ตัวนะ แค่จะอธิบาย บางคนบอกอีโก้จังเลย ไม่ยอมขอโทษ ขอโทษไม่ได้พูดยากเลย พูดตรงนี้อีกทีก็ได้ว่าขอโทษ แต่คำถามคือขอโทษอะไร ถ้าขอโทษว่าทำไมไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่หลังจากนั้นเอ่ยไง เราจะขอโทษในสิ่งที่เราไม่ได้ทำ มันทำไม่ได้
ขอโทษไม่ได้ยาก แต่หลังจากคลิปนั้นมันต้องมีคลิปมาต่อสิ อั๋น ก็จะถามว่าคนที่ลงคลิปนั้นทำไมไม่ลงต่อตอนที่พูดชื่อนามสกุลล่ะ แล้วบอกด้วยนะว่าจากแบรนด์อะไร แล้วทำไมเรียกผู้ชายคนนั้น เรียกแบบนี้ อั๋น ไม่เห็นรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกเลย นี่ไม่ได้พูดเพราะเราไม่ได้รู้จักนะ มันเป็นแค่วิธีและลีลา นี่มันคือแซว เพราะเดี๋ยวเราก็แนะนำกันต่อ
และมีอีกอย่างน้อย 20 หรือ 30 คนที่นั่งอยู่ตรงนั้นที่ อั๋น ไม่แม้แต่จะทัก ไม่โดนด่าตายเลยเหรอ ทำไมเลือกทัก 3 ไม่ทัก 27 คน อั๋น เลยไม่เข้าใจว่าดรามามันเกิดจากอะไร หรือเจตนาในการขับเคลื่อนเกิดจากอะไร ก็ขอมายืนยันตรงนี้แล้วกันว่าเจตนาไม่ดีไม่มีเลยในตรงนั้น แล้วตรงที่ อั๋น ออกมาพูดรักเกินมักทำลาย ก็ไม่ได้ด่าใครทั้งสิ้น แต่มันเป็นสัจธรรม เราพูดกลางๆ แม้แต่ตัว อั๋น ด้วยเหมือนกัน ลูกเราไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน คนที่มาพูดจาอะไรที่เราอาจไม่เข้าหู หรือลูกเราทำอย่างที่จริงๆ มันอาจจะผิด เราก็ต้องไม่เผลอเข้าข้าง แต่เรายืนอยู่ข้างๆ ได้
อั๋น ก็ไม่ได้ออกมาบอกว่าเราดีเลิศประเสริฐศรีแต่อย่างใดนะ แต่ถ้าจะอธิบายก็ถือโอกาสนี้ในการอธิบาย อั๋น ไม่คิดว่ามันจะจบได้ง่ายๆ หรอก แล้วเรื่องแบบนี้ก็คงจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ามันอยู่ในความตั้งใจของการที่เราจะคุยกันเพื่อให้เห็นเจตนากัน ก็เลยคิดว่าได้พูดสักที

ส่วนประเด็นที่มีคนโยงถึง พี่จอง-คัลแลน คือเรากับ พี่จอง-คันแลน ไม่เคยเจอกันเลย แต่เขาบอกว่า อั๋น มีปัญหากับจอง-คัลแลน อั๋นจะมีปัญหาอะไร อันนี้เข้าข่ายเฟคนิวส์ได้เลยนะ แล้วเขาบอกว่า อั๋น เชิญทั้งสองคนมาในรายการ รายการไหน ลองพูดสิ อั๋น ทำรายการไหนที่จะเชิญเขาแล้วแมตช์ ไม่มี ซึ่งไม่ได้แปลว่าเขาไม่ดีพอ หรือเราไม่ชอบ แต่เรายังไม่เคยเชิญ แล้วที่บอกว่าพี่ อั๋น พูดถึงค่าตัว ก็มันอยู่ในข่าว เราเป็นมนุษย์ข่าว เป็นนักข่าว เป็นคนเล่าข่าว เราก็เล่าข่าวไง แต่เราก็ถูกตัดต่อไป แล้วกลายเป็นบอกว่าพี่อั๋นไม่ชอบอย่างนี้เป็นต้น
ก็คงจะระวังก็แล้วกัน ถ้าตอบแบบนี้ก็จะดูดี จริงๆ ก็ระวังอยู่แล้วแหละ ก็คงต้องเคลื่อนตัวไปแบบนี้ ปัจจุบันที่ทุกคนสามารถคอมเมนต์อะไรก็ได้ ทุกคนสามารถพูดอะไรก็ได้ ทุกคนสามารถตัดต่ออะไรก็ได้ แต่อั๋นคิดว่าเป็นเรื่องที่เราก็พูดบ่อยมากเลย ควรเข้าใจกันให้มาก แต่ตัดสินกันให้น้อยลง ในทุกเรื่องนะครับ เพราะสักวันนึงมันอาจจะวนมาถึงตัวเราหรือตัวใครก็ได้”
