เปิดประวัติไม่ธรรมดาของ ซิม คิวเท หรือ คิวเท โอปป้า จากเด็กเกาหลีฝึกเต้นสายย่อ สู่ว่าที่ตัวพ่อยูทูบเบอร์ของเมืองไทย
ยังคงเป็นประเด็นที่สังคมจับตามอง กรณีของยูทูบเบอร์ชื่อดัง คิวเท โอปป้า หรือ คิวเท ซิม ได้ออกมาเปิดใจผ่านยูทูบชาแนลของตนเอง หลังพบหลักฐานว่ามีหนึ่งในทีมงานได้ขโมยทรัพย์สินในบ้านไปขายต่อเป็นระยะเวลาหลายปี รวมมูลค่าความเสียหายหลายแสนบาท โดยเจ้าตัวได้เดินทางเข้าแจ้งความที่สน.บางแก้ว และยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่มาก ๆ วันนี้ทีมข่าว Bright Today จะพาทุกคนไปรู้จักกับ คิวเท โอปป้า ให้มากขึ้น ว่าเขาเป็นใคร และแจ้งเกิดในวงการยูทูบเบอร์ได้อย่างไร?
คิวเท โอปป้า คือใคร?
คิวเท หรือ ซิม คิวเท มีชื่อเล่นว่า ซิม เกิดและเติบโตที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2542 ปัจจุบันอายุ 23 ปี มีพ่อและแม่เป็นบาทหลวงชาวเกาหลีใต้แท้ ๆ คิวเทมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ซึ่งตนเองเป็นพี่ชายคนโตสุด และมีน้องสาวอีก 2 คน
จากคนธรรมดา สู่ คิวเท โอปป้า ยูทูบเบอร์ชื่อดังของเมืองไทย
คิวเท เล่าจุดเริ่มต้นในการเป็นยูทูบเบอร์ว่า ตอนแรกตั้งชื่อช่องว่า คิวเททีวี ทำไปสักพักหลายคนก็ถามว่าตนเองเป็นคนเกาหลีปลอมหรือเปล่า จึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้คนไทยเชื่อว่า “ผมเป็นคนเกาหลีจริง ๆ” ก็เลยเปลี่ยนจาก คิวเททีวี เป็น คิวเท โอปป้า ซึ่งคำว่า โอปป้า เป็นคำที่ผู้หญิงใช้เรียกผู้ชายที่มีอายุเยอะกว่า ส่วนผู้ชายด้วยกันจะเรียกว่า ซิม ก็ได้ “ช่องนี้สร้างขึ้นมาเพื่อความสนุก มีสาระน้อย ๆ หรือไม่มีสาระเลยในบางครั้ง ถ่ายคลิปแกล้งคน, ถ่าย Vlog ผมชอบการถ่ายทำมาก ๆ เลย” คิวเท โอปป้า กล่าว
เกาหลีสายย่อ คลิปแรกจากกล้องที่ ‘พ่อ’ ซื้อให้
คิวเท โอปป้า เริ่มถ่ายทำยูทูบขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คลิปแรกคือ “เกาหลีเต้นสายย่อ” ตอนนั้นมีกล้องโซนี่เล็ก ๆ ที่คุณพ่อซื้อให้ ตั้งถ่ายเอง อายนะแต่ก็ถ่าย ใช้เวลาทั้งหมด 2 อาทิตย์ในการทำทุกอย่าง แต่คลิปที่ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักคือ เกาหลีดูหนังผีไทย เป็นการตั้งกล้องรีแอ็คภาพยนตร์เรื่อง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ แบบทั้งเรื่อง นั่งดูคนเดียวเป็นเวลาชั่วโมงครึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือรีแอ็คมันออกมาสนุก คนแชร์กันในเพจสองหมื่นคน ตกใจมาก วันหนึ่งเล่นเฟซบุ๊กเจอแต่หน้าตนเอง เพื่อน ๆ ก็แชร์กันเต็มไปหมดเลย
เด็กเกาหลีนั่งดูหนังผีไทย สู่ ต่างชาติรุ่นใหม่ที่มีบริษัทเป็นของตัวเอง
คิวเท : ผมอยากเป็นเหมือนชาวบ้าน พอเห็นคนที่ประสบความสำเร็จก็เลยมองว่าถ้าเราอยู่แค่ตรงนี้ มันอาจจะอยู่แค่ตรงนี้ ลองขยายฐานดูดีไหม เลยตัดสินใจเปิดและจดทะเบียนบริษัท เปิดยากมากกว่าต่างชาติจะเปิดได้ ต้องจ้างทนายเสียเงินหลายหมื่นเลย แต่ตอนนี้ทีมผมไม่เหลือใครแล้ว จริง ๆ
เรื่องนี้ทำให้ผมเรียนรู้เยอะมากเลยนะ ผมว่าเรื่องของหายไม่เท่าไหร่ แต่ผมให้ใจและดูแลร้อยเปอร์เซ็น เพราะมองว่าเขาเป็นพี่ที่รัก เป็นญาติกันไปแล้ว สุดท้ายมาทำกันอย่างนี้มันเจ็บ ตอนนี้เป็นช่วงที่ผมทำงานของทุกคน (อดีตทีมงาน) นั่งไล่จดว่าคนนี้ทำอะไร ลองเรียนรู้ใหม่ทั้งหมดเลย วางบิล ใบเสนอราคา คุยกับลูกค้า แล้วก็ถ่ายเก็บไว้ดูเป็น VLOG ด้วย
อ่านข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- เจ้าแม่เสี่ยงโชค! มัม ลาโคนิคส์ ดวงเฮงต่อเนื่อง แฟน ๆ ถึงกับลั่น อย่าลืมเก็บสถิติ
- ขนลุก! ปู แบล็กเฮด ถูกตรง ๆ 03 จากเลขเซียมซีของ มนต์สิทธิ์ คำสร้อย
- Exclusive ที่แรก! เมื่อ Bright Today ขอท้า มีน พีรวิชญ์ โชว์ซิกซ์แพ็กแบบสด ๆ หน้ากล้อง
- นิก คุณาธิป แจงละเอียด! หลังเจอดราม่าสัมภาษณ์เรื่อง กระติก
- ไม่ถูกให้มันรู้ไป! ฮาย อาภาพร โชว์ลอตเตอรี่ ซื้อหมดกว่า 4หมื่นบาท