Midway ช่วงปลายปีแบบนี้มีภาพยนตร์ดีๆ ออกมาเยอะมากและในอาทิตย์นี้มีหนังที่น่าสนใจเมืองๆ อยู่หนึ่งเรื่องคือ Midway ซึ่งมีชื่อไทยๆ ง่ายๆ ว่า “อเมริกาถล่มญี่ปุ่น” ซึ่งสร้างขึ้นจากเหตุการณ์ขึ้นจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
หนังจะบอกเล่าเรื่องราว “ยุทธการมิดเวย์” (Battle of Midway) ว่ากันว่าเป็น ยุทธการที่สำคัญที่สุดในแนวรบด้านมหาสมุทรแปซิฟิก ของช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการปะทะกันแบบ 360 องศาของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่กินเวลาเพียง 4 วันแต่กลับเป็นจุดเปลี่ยนการรบของสงครามโลกครั้งที่ 2
ขึ้นชื่อว่าหนังสงครามแต่มันกลับอุดมไปด้วยฉากแอคชั่นมันส์ๆ 360 องศา มากกว่าเนื้อเรื่อง และมีเพียงการเล่าเรื่องแบบหลวมๆ ทำให้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าหนังเรื่องอื่นๆ เพราะผลงานของผู้กำกับโรแลนด์ เอมเมอริช ก็ถนัดเรื่องทำหนังบู๊ระเบิดภูเขาเผากระท่อม อย่าง Stargate (1994) Independence Day (1996) และ The Day After Tomorrow (2004)
และ Midway เอง เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องต่อจากหนัง Pearl Harbor (2001) ที่กำกับโดยไมเคิล เบย์ (ตระกูล Tranformers) ซึ่งมันห่างจากเหตุการณ์ถล่มเพิร์ลฮาร์เบอร์เพียง 6 เดือนเท่านั้น ( ธ.ค. 191 – มิถุนายน 1942) โดยศึกยุทธนาวีมิดเวย์เป็นสมรภูมิสำคัญของฝั่งแปซิฟิกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อันเป็นฐานที่มั่นของอเมริกา
ถ้าหากญี่ปุ่นชิงพื้นที่นี้ได้ก็จะเป็นฐานในการบุกจู่โจมเรือรบที่เหลืออยู่ของอเมริกาได้ ทั้งยังจะทำให้แนวรุกโต้กลับของอเมริกาเป็นไปได้ยากด้วยที่ข้ามสมุทรมาโจมตีเอเชีย แม้ในเวลานั้นทั้งด้านเรือรืบ (ช่วงนั้นกำลังทำการสร้างยามาโตะอยู่) และเครื่องบินรบซีโร่ (ของมิตซูบิชิ) ก็มีสมรรถนะเหนือกว่าเครื่องบินรถของอเมริกาทุกรุ่น แถมทหารก็ได้รับการฝึกมาเป็นเวลานานกว่าของอเมริกาที่ซ้อมกันแค่ 6 เดือน
แต่อย่างไรก็ตามอเมริกานั้นมีสิ่งที่เขาเหนือกว่าคือ การผลิตและการซ่อมเครื่อบรินรบ-เรือรบที่มีประสิทธิภาพมากกว่า และการข่าวที่สามารถจับสัญญาณและถือรหัสในศึกที่มิดเวย์ได้รวดเร็วกว่า โดยศึกนี้กินเวลาระหว่างวันที่ 4-6 มิถุนายนปี 1942 เท่านั้น และชัยชนะครั้งนั้นเองทำให้ฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มกุมความได้เปรียบ พร้อมกับเอาชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ในภายหลัง
การเล่าเรื่องของหนังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่าหนังยุทธการทางสงครามเรื่องอื่นเลย ที่จะมีทีมฮีโร่ของชาติอยู่หนึ่งทีม ออกไปทำภารกิจเสี่ยงตาย มีการวางแผนการรบ มีดราม่าคนตาย มีการปลุกเร้าคนที่เหลืออยู่ให้ฮึกเหิม และมีฮีโร่ตัวหลัก แต่หนังกลับมีความเข้มข้นในทุกๆ ฉากที่หนังบอกเล่าออกมาซึ่งมันสามารถตรึงคนดูได้อยู่หมัด โดยที่คนดูจะลุ้นตามเนื้อเรื่องได้ตลอดเวลา
ในเรื่องนี้จะเน้นการรบทางอากาศซะเป็นส่วนใหญ่ โดยเป็นฉากเครื่องบินรบพุ่งไล่ล่ากันกลางอากาศ มันดูแล้วทำให้ลุ้นตามในทุกจังหวะของหนัง ส่วนตัวละครนำคือ Ed Skrein (จาก Deadpool) ในบท Dick Best (อย่าแปลชื่อเป็นอันขาดนะครับ อันตราย) นักบินกล้าตายที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ พร้อมด้วยดาราดังที่รายล้อม Patrick Wilson (Conjuring), Luke Evans (Dracula Untold), Woody Harrelson (Zombieland 2) และอื่นๆ อีกคับคั่ง
แม้ว่าหนังเรื่องนี้ค่อนข้างยาวและอืดไปสันนิด และเน้นแอคชั่นเป็นหลัก แต่ง มันก็จะมีบางช่วงที่หนังใส่เข้ามาเพื่อเบรกความเครียดจากฉากสงครามแค่นั้น ยกตัวอย่างเช่น ฉาก ดราม่า ฉากบอกรักกัน หรือฉากเพื่อนคุยกัน มันเหมือนเอามาเพื่อเบรกอารมณ์นิดนึง ก่อนที่จะจัดใหญ่ต่อเนื่องกันในตอนจบ และสำหรับคอหนังนั้นไม่ควรพลาด
บทความนี้แปลและเขียนโดยทีมข่าว Bright Today
ขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.telegraph.co.uk/films/0/midway-review-america-takes-fight-japan-thrilling-surprisingly/
https://www.independent.co.uk/arts-entertainment/films/reviews/midway-review-roland-emmerich-wwii-battle-film-cast-director-a9188686.html