“บุ๋ม ปนัดดา” เสี่ยงชีวิตแนวหน้า! ถูกหมายหัวกลางสนามรบ หลังทุ่มช่วยชายแดนไทย-เขมร ลั่น! หิวแสง ถ้าแสงนั้นช่วยคนได้
เรียกว่าไม่ใช่แค่คนบันเทิง แต่ บุ๋ม ปนัดดา คือผู้หญิงแกร่งที่อุทิศตัวเองอย่างจริงจังให้กับสังคม จนลุกขึ้นมาสวมบท “ฮีโร่หญิงแนวหน้า” ลุยช่วยเหลือทั้งประชาชนและทหารในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา แม้ต้องแลกมากับความเสี่ยงสูงถึงขั้น “ถูกหมายหัว” และเกือบเอาชีวิตไม่รอด
ในรายการ WOODY FM บุ๋มเปิดใจหมดเปลือกว่า ปัจจุบันเวลาส่วนใหญ่ของเธอไม่ใช่อยู่หน้ากล้องหรือบนเวทีอีกต่อไป แต่คือการ “ลงพื้นที่” ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยย้ำชัดว่า “งานสังคม” กลายเป็น 75% ของชีวิต และถึงแม้ไม่มีรายได้ เธอก็ยังเลือกทำ เพราะ “รอยยิ้มประชาชนคือความสุขที่แท้จริง”
ทุ่มหมดหน้าตัก สร้าง “บังเกอร์” ให้ทหาร
บุ๋มเผยว่า จุดเริ่มต้นของการเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดน เริ่มตั้งแต่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดเหตุปะทะกันจริงวันที่ 24 ก.ค. ในช่วงนั้นเธอตัดสินใจ “ลุยทำบังเกอร์ให้ทหาร” ทั้งที่ยังไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้เพราะสถานการณ์อ่อนไหว โดยเลือกใช้ ที่ดินของครอบครัวนำไปจำนอง เพื่อระดมทุนสร้างบังเกอร์ทันที
“ตอนนั้นพูดไม่ได้เลยว่ากำลังจะมีการรบ เพราะถ้าบอก คนจะคิดว่าเราบ้า… แต่เรารู้ เราเห็น เราต้องทำเลย เพราะแค่หนึ่งชีวิตก็มีค่า” — บุ๋ม ปนัดดา
ถูก “หมายหัว” กลางสนามรบ
ความกล้าหาญของเธอกลายเป็นที่สนใจจากทั้งสองฝั่งของความขัดแย้ง บุ๋มยอมรับว่า เธอ ถูกมองว่าเป็นสปอนเซอร์ใหญ่ของกองทัพ จนถึงขั้นมีผู้ใหญ่กระซิบบอกให้เธอระวังตัว และหลีกเลี่ยงการเปิดเผยกำหนดการลงพื้นที่ล่วงหน้า เพื่อป้องกันอันตรายจาก “การถูกหมายหัว”
“ตอนนี้คือห้ามบอกใครล่วงหน้าเลยว่าจะไปไหน ไปกี่โมง เพราะมีคนจับตาอยู่จริง ๆ” — บุ๋ม กล่าว
ข่าวลือหนัก – โดนลือ “เสียชีวิตจากระเบิด BM-21”
ไม่เพียงแค่ความเสี่ยงในสนามรบ บุ๋มยังโดนกระแสข่าวลือว่าเสียชีวิตจาก “ระเบิด BM-21” ระหว่างลงพื้นที่ชายแดน จนเธอต้องออกมาชี้แจงผ่านโซเชียลว่า “ยังไม่ตาย ยังอยู่ดี” พร้อมตัดพ้อว่า การช่วยเหลือสังคมต้องมาเผชิญข่าวปลอมเสียหายเช่นนี้
ลั่น “หิวแสง” ถ้าแสงนั้นช่วยคนได้
เมื่อถูกถามแรง ๆ ว่า “หิวแสงไหม?” บุ๋มตอบอย่างไม่ลังเลว่า
“ใช่ บุ๋มหิวแสงมาก! ถ้าแสงนั้นทำให้เสียงของคนที่ถูกลืมดังขึ้น ทำให้พื้นที่ที่ไม่มีใครสนใจได้รับการมองเห็น และคนที่ไม่มีความยุติธรรมได้โอกาส… บุ๋มจะวาร์ปแสงนั้นให้ยิ่งใหญ่กว่าดวงอาทิตย์เลย!”
เธอย้ำว่าความตั้งใจของเธอไม่ใช่เพื่อสร้างภาพ แต่เพราะเธอ “เห็นของจริงในพื้นที่” และยืนยันว่าการช่วยคน ต้องเริ่มจาก ตัวเอง ให้แข็งแกร่งก่อน
ผลกระทบในพื้นที่ – เด็กหยุดเรียน เกษตรกรขาดรายได้
บุ๋มยังเผยอีกว่าปัญหาใหญ่ในพื้นที่ชายแดนไม่ได้อยู่แค่ความปลอดภัย แต่รวมถึง เศรษฐกิจและการศึกษา โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่ต้องหยุดเรียนเพราะโรงเรียนปิด รวมถึงเกษตรกรที่ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เลย เนื่องจากเข้าพื้นที่ไม่ได้
“ผลผลิตสุกไม่รอหยุดสงคราม … แต่ชาวบ้านเอาออกไปขายไม่ได้ รายได้คือศูนย์!”
เธอจึงวอนรัฐบาลช่วยผ่อนปรนหนี้หรือหาทางออกให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก
สรุปเสียงหัวใจ
“ฉันไม่ได้อยากเด่น ไม่อยากดัง แต่ฉันอยากให้แสงที่ได้มา นำทางไปยังคนที่ไม่มีเสียง… ถ้าแสงนั้นช่วยพวกเขาได้ ฉันจะขอหิวแสงต่อไป”
นาทีนี้ “บุ๋ม ปนัดดา” ไม่ได้เป็นแค่พิธีกร นักแสดง หรือคนดังในวงการบันเทิงอีกต่อไป แต่เธอคือหนึ่งใน “พลังเงียบ” ที่กล้าทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้า แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
