แพท ณปภา ย้อนนาทีวิกฤต เศร้าที่สุดในชีวิต ปมร้อนอดีตสามี จนถึงขั้นคิดอำลาวงการบันเทิง ลั่นทุกอย่างเปลี่ยนเพราะ น้องเรซซิ่ง
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซิงเกิลมัมสุดสตรองของวงการบันเทิง สำหรับ แพท ณปภา ตันตระกูล ที่ผ่านเส้นทางชีวิตทั้งดีร้ายมาอย่างมากมาย ปัจจุบันความสวยและความฮอตของเธอไม่เคยลดลง มีงานเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทางด้านลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่าง น้องเรซซิ่ง ก็กำลังเติบโตอย่างดี ท่ามกลางความรักจากทุกๆ คน ทำเอาคุณแม่ทั้งรักและภูมิใจในตัวลูกชายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ย้อนนาทีวิกฤตชีวิต เคยคิดออกจากวงการ
ล่าสุดสาว แพท ณปภา ได้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ ชาใจ Sharing EP.6 ของ น้ำชา ชีรณัฐ เปิดใจพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤตที่หนักที่สุด และเป็นช่วงที่เศร้าหนักในใจของ แพท จนเคยคิดอำลาวงการบันเทิง นั่นคือประเด็นร้อนของอดีตสามี เบนซ์ เรซซิ่ง โดยเธอเผยว่า “ช่วงที่เศร้าที่สุดคือภาวะแรก ตอนเรซเล็กๆ เรากังวลมากไปว่าเราจะเป็นซิงเกิลมัมได้ดีไหม ลูกเราจะรู้สึกเติมเต็มไหม ตอนนั้นความตั้งใจของเราคือการมีครอบครัวที่ดี ถ้าทำได้เราอยากให้เขาโตมาแบบพ่อแม่ลูก แต่เป็นเหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้

เรากังวลว่าลูกจะโตมามีความสุข จะโอเคกับเรื่องที่เกิดขึ้นไหม เขาจะผ่านจุดนี้ไปได้หรือเปล่า คิดถึงขั้นที่แบบเพื่อนจะล้อลูกเราไหม เพราะข่าวมันดังมาก ทุกคนรับรู้ สรุปคือทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด ลูกเราเป็นเด็กที่ทุกคนรัก แล้ววันที่เราล้มก็คิดว่าขึ้นมายืนในจุดเดิมไม่ได้แล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่แรงและใหญ่มาก ตอนนั้นน่าจะเป็นรายแรกๆ ที่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ตอนนั้นดูเงินในบัญชีแล้วว่าเราเก็บเงินมาเท่าไร จะพอเลี้ยงเขาไหม เราจะไปทำอาชีพอะไร เพราะคิดว่ากลับมายืนจุดนี้ไม่ได้แล้ว ไม่มีใครจ้างเราหรอก เราเข้าใจเจ้านาย ต้นสังกัด เข้าใจทุกคน เราน่าจะต้องไปแล้วแหละ เพราะเรื่องมันใหญ่มาก ใครจะอยากเอาคนที่มีข่าวแบบนี้ไปทำ ตอนแรกๆ คนก็สาปเราอยู่นะ ผัวเมียกันไม่รู้เหรอ คือไม่รู้ค่ะ เราคบกัน แต่งงาน มีลูกปีเดียว แล้วต่างคนต่างมีชีวิต เราทำงานทุกวัน เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องใดๆ ที่ยังสืบไม่ถึง แต่คนไม่รู้

เราก็มาดูว่าเรามีความรู้เรื่องไหนบ้าง ทำอาชีพอะไรต่อจากนี้ได้บ้าง รวมถึงเงินในบัญชีพอส่งเรซจบปริญญาตรีได้ไหม คนชอบพูดว่าแพทตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ด้วยอะไรหลายๆ อย่าง สุดท้ายคนอ้าแขนรับลูกเรา เขาเกิดมาแล้วคนก็ชอบไปเลย เราก็ไม่เข้าใจมันคงเป็นบุญของเขามั้งที่คนเอ็นดู เจ้าของแบรนด์ที่ตอนแรกคิดว่าเขาคงโบกมือบ๊ายบายเราอะ เขาไม่ทิ้งเรานะ พอเจ้าหนึ่งไม่ทิ้ง อีกเจ้าหนึ่งก็ไม่อยากจะทิ้ง เลยกลายเป็นว่าเรากลับมาอยู่จุดนี้ได้ ทั้งๆ ที่ตอนแรกถอดใจไปแล้ว
ถามว่าเครียดไหม เราเครียดนะ ตอนเกิดเรื่องแรกๆ เรากำลังจะคลอดในอีกสิบวัน บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร อย่าเครียด หลังจากคลอดสิบวัน สามเดือนก็แยกย้าย รู้สึกเศร้าไม่สุด เพราะจุดโฟกัสเปลี่ยน เราต้องเลี้ยงลูกไปด้วย พอย้อนกลับมามองก็หกปีแล้วเหรอที่เราผ่านจุดนั้นมา ก็ผ่านมาได้นี่ ทัศนคติความคิดมันสำคัญ วันนี้ไม่ดี พรุ่งนี้ก็คงดีแหละมั้ง”

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY