ความพยายามและทุ่มเทของเหล่าฮีโร่ที่ต้องต่อสู้กับความยากลำบากของสภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศที่เป็นอุปสรรคหลักในการช่วยเหลือทีมหมูป่าในครั้งนี้ กำลังจะประจักษ์สู่สายตาคนทั้งโลกครั้งแรกในรูปแบบภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง ผ่านฮีโร่ตัวจริง
หากย้อนไปช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2561 ที่ผ่านมา ทุกคนจะต้องนึกถึงเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งเกิดขึ้นที่“วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จากเหตุการณ์ “13 หมูป่าติดถ้ำ” หรือทีมนักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงเป็นระยะเวลากว่า 18 วัน
ซึ่งภารกิจการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากสภาพภูมิประเทศของถ้ำและภูมิอากาศช่วงมรสุมที่มีฝนตกตลอดจนทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น จนทำให้เกิดการระดมทีมช่วยเหลือจากหลายๆ ส่วนของไทยทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญในแขนงต่างๆ จากอีกหลากหลายประเทศ
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง ‘The Cave-นางนอน’ ได้ผู้กำกับฝีมือะดับพระกาฬทอม วอลเลอร์ มาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ในเรื่องดังกล่าว
โดยเนื้อเรื่องจะเป็น“ภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวง” โดยเล่าเรื่องผ่านมุมมองของอาสาสมัครที่ต้องทำงานแข่งกับความเป็นความตายของทีมหมูป่าทั้งสิบสามคน
ร่วมด้วยทีมนักแสดงนำของเรื่องประกอบไปด้วยผู้ร่วมภารกิจกู้ภัยในเหตุการณ์จริง ประกอบไปด้วยจิม วอร์นี่ นักดำน้ำชาวเบลเยี่ยม, เอริก บราวน์ ครูสอนดำน้ำชาวแคนาดา, ถันเซี่ยวหลง ครูสอนดำน้ำในถ้ำชาวจีน, มิกโก พาซี นักดำน้ำชาวฟินแลนด์, ท็อดด์ รูอิซ นักข่าวหนังสือพิมพ์ข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ และ นภดล นิยมค้า ผู้ส่งเครื่องสูบน้ำพญานาค
ร่วมกับนักแสดงที่ได้รับการคัดเลือกให้มารับบทเพื่อถ่ายทอดเรื่องราว อาทิเช่น เบสท์ เอกวัฒน์ นิรัตน์วรปัญญา ในบทโค้ชเอกพล จันทะวงษ์, ศิลปินพื้นบ้าน จำปา แสนพรม รับบทเป็นแม่บัว ชัยชื่น ชาวนาที่เป็นอาสาสมัครที่คอยทำอาหารให้กับหน่วยกู้ภัย และยอมให้ที่นาของเธอรับน้ำที่สูบออกจากตัวถ้ำ สมทบด้วยนิรุตติ์ ศิริจรรยา, ตรีชฎา เพชรรัตน์, ไมเคิล เชาวนาศัย และ อาภา ภาวิไล
ภาพยนตร์เรื่อง ‘The Cave-นางนอน’ มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ในประเทศไทย โดยก่อนหน้านั้นจะทำการฉายรอบปฐมทัศน์โลกที่เทศกาลหนัง BFI London Film Festival ประเทศอังกฤษ ช่วงเดือนตุลาคมนี้
อ่านข่าว Bright Today