นายกสมาคมอีสปอร์ตฯ งัดหลักฐานเด็ด มัดตัว “Tokyogurl” ล็อกอินซ้อนชัด แฉรู้แล้วใครคือ “ร่างเงา” ลั่นโทษสูงสุดแบนตลอดชีวิต
กลายเป็นประเด็นร้อนสะเทือนวงการอีสปอร์ตไทย เมื่อกรณีของนักกีฬาในนาม “Tokyogurl” ที่ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องการทุจริตการแข่งขัน ยังคงไม่จบลงง่าย ๆ แม้เจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดในรายการดัง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้สอบถามประเด็นนี้โดยตรงไปยัง นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ซึ่งออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เชื่อคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหา เนื่องจากหลักฐานทางเทคนิคจากการแข่งขันชี้ชัดว่ามีความผิดจริง
นายสันติ ระบุว่า หลักฐานสำคัญอยู่ที่ Log file ในโทรศัพท์มือถือทั้งเครื่องที่ใช้แข่งขันและเครื่องซ้อม ซึ่งสามารถตรวจสอบประวัติการล็อกอิน อีเมล และการเข้าใช้งานย้อนหลังได้ โดยขณะนี้สมาคมฯ ได้ประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคม เพื่อเช็ก IP Address อย่างละเอียด หากพบการล็อกอินซ้อนจากบุคคลอื่น จะถือเป็นหลักฐานยืนยันการให้ผู้อื่นลงเล่นแทน ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความเสื่อมเสียต่อวงการอย่างร้ายแรง
ขณะเดียวกัน นายกสมาคมฯ ยังเปิดเผยข้อมูลที่หลายคนจับตา นั่นคือบุคคลที่ทำหน้าที่เป็น “ร่างเงา” หรือผู้เล่นแทน ซึ่งขณะนี้ทราบตัวแล้วว่าเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตระดับเซมิโปร (Semi-Pro) โดยการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดร้ายแรงทั้งสองฝ่าย และเตรียมพิจารณาบทลงโทษขั้นสูงสุดคือ แบนตลอดชีวิตจากการเป็นนักกีฬาทีมชาติ
นายสันติ ยังกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า หากมีความคิดจะหลบหนี การตามตัวไม่ใช่เรื่องยาก พร้อมทิ้งประโยคดุเดือดว่า “ถ้าจะหนี ต้องมีเงินซื้อเกาะส่วนตัว”
สำหรับบทลงโทษในภาพรวม สมาคมฯ ยืนยันชัดว่า หากสโมสรใดรับนักกีฬาที่มีพฤติกรรมสร้างความเสื่อมเสียเข้าสังกัด สโมสรนั้นจะหมดสิทธิ์ส่งนักกีฬาเข้าร่วมทีมชาติทันที เพื่อรักษามาตรฐานและภาพลักษณ์ของวงการอีสปอร์ตไทย
ส่วนเพื่อนร่วมทีมอีก 5 คน นายกสมาคมฯ ระบุว่า เบื้องต้นยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ และยังคงได้รับโอกาสเข้าแคมป์เก็บตัว รวมถึงศึกษาดูงานต่างประเทศตามแผนเดิม แต่หากภายหลังพบว่ามีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการทุจริต จะมีการพิจารณาลงโทษย้อนหลังอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้ นายสันติ ย้ำว่ามาตรการทั้งหมดมีเป้าหมายเดียว คือการปกป้องวงการอีสปอร์ตไทยไม่ให้เสื่อมเสีย และปลูกฝังจิตสำนึกด้านวินัยและความซื่อสัตย์ให้กับนักกีฬารุ่นใหม่อย่างจริงจัง
ที่มา รายการโหนกระแส