รู้หรือไม่! “ลดน้ำหนัก” แบบ “อดอาหาร” ผลเสียมากกว่าผลดี ระบบเผาผลาญพัง ร่างกายไม่ได้รับสารอาหาร อันตรายถึงชีวิต
รู้หรือไม่ ว่าการ “ลดน้ำหนัก” แบบ “อดอาหาร” ผลเสียมากกว่าผลดี และที่สำคัญ ไม่ได้ทำให้ผอมลง มีเเต่น้ำหนักขึ้นหรือที่เรียกว่า “โยโย่เอฟเฟกต์” เพราะการที่เราอดอาหาร ร่างกายจะไม่มีสารอาหารให้เผาผลาญ นั้นเป็นการทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายเราทำงานได้ผิดปกติ เกิดจากอะไรมาดูเลย!!!

เมื่อเรากลับมากินอาหารอีกครั้งกลับกลายเป็นว่า “ระบบเผาผลาญ” ของร่างกายเราไม่สามารถทำงานได้ดีเหมือนเดิม เพราะระบบเผาผลาญของเราจะจดจำให้ไม่เผาผลาญจึงเป็นสาเหตุให้เกิด “โยโย่เอฟเฟกต์” เพราะเมื่อร่างกายไม่เผาผลาญ ร่างกายก็จะกักเก็บพลังงานไขมัน ทำให้เราอ้วนขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้จะอดอาหารก็ตาม เเละผลเสียที่มากกว่า “ระบบเผาผลาญพัง” คือร่างกายขาดสารอาหาร ส่งผลให้ระบบหัวใจของเราทำงานได้ผิดปกติรวมถึงสมองของเราทำงานได้ผิดปกติ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตเมื่อเราอดอาหารนั้นเอง
ดังนั้น การลดน้ำหนักที่ดีจึงไม่ควรอด แต่ให้ลดและเลี่ยงอาหารบางอย่าง เช่น ของมัน ของทอด ของหวาน และเลือกอาหารที่ย่อยง่าย กากใยสูง หรือเน้นโปรตีน เช่น ผักลวกกับน้ำพริก ต้มจืดเต้าหู้ไข่ สเต็กหมู สเต็กอกไก่ หรือโยเกิร์ต และอย่าลืมออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย
กินมื้อเย็นอย่างไรไม่ให้อ้วน?
- จำกัดปริมาณของอาหารในมื้อเย็น ให้เป็นมื้อที่พลังงานต่ำที่สุด หากมื้อเช้าเราทาน 40% หรือราวๆ 700 กิโลแคลอรี่ มื้อกลางวันเราอาจแบ่งกินเป็น 35% หรือราวๆ 600 กิโลแคลอรี่ และแบ่งเป็นมื้อเย็นอีกเพียง 25% หรือราวๆ 500-400 กิโลแคลอรี่ นั่นคือการเน้นหนักที่มื้อเช้า และลดปริมาณลงที่มื้อเย็น สอดคล้องกับหลักนาฬิกาชีวิตที่ในตอนเช้า วันเริ่มต้นของร่างกายจะต้องใช้พลังงานมากที่สุด และควรมีอาหารอยู่ในกระเพาะอาหารในช่วง 7.00-9.00 น. ดังนั้นมื้อเย็นเป็นมื้อที่เราควรทาน แต่อย่าให้เยอะจนเกินไปนั่นเอง
- การนับจำนวนแคลอรี่ เป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถคาดคะเนด้วยสายตาคร่าวๆ ได้ โดยเลือกว่ามื้อเช้าเราทานเต็ม 1 จานใหญ่ ตอนกลางวันกิน ¾ ของจาน และมื้อเย็นกิน ½ จานก็ได้ และพยายามเลือกอาหารให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ โดยลดการทานอาหารที่มีไขมันจากสัตว์ แป้ง และน้ำตาลสูงในมื้อเย็น เน้นผักผลไม้ให้มากขึ้น
- มื้อเย็นควรเน้นเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เช่น โปรตีนจากนม ไข่ ปลา ไก่ และหลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารทะเลที่ย่อยยาก เช่น ลูกชิ้นปิ้ง หมูปิ้ง ไส้กรอกทอด หมูทอด เป็นต้น
- เลือกทานมื้อเย็นก่อนเวลาเข้านอน 4-6 ชั่วโมง อย่ากินดึกมากจนเกินไป และอย่ากินล่วงหน้านานเกินไปเช่นกัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการทานมื้อเย็น คือ 16.00-18.00 น. เพื่อให้เราได้เข้านอนในเวลา 22.00-00.00 น. และอาหารทั้งหมดในท้องย่อยได้เรียบร้อยก่อนล้มตัวลงนอนนั่นเอง ซึ่งการนอนหลังทานอาหาร 4-6 ชั่วโมง ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย
อย่าลืมว่าหลักสำคัญของการลดน้ำหนัก ไม่ได้อยู่ที่การลดมื้ออาหารลง แต่เป็นการควบคุมปริมาณของอาหารที่กินไม่ให้มีพลังงานมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการใช้ ดังนั้นเมื่อเราลดปริมาณอาหารลงให้พอดี และออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับหัวใจ และเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้กระชับได้สัดส่วน เราก็ไม่ควรต้องกังวลกับน้ำหนักที่เป็นเพียงตัวเลขบนตาชั่งอีกต่อไป
อีกหนึ่งเทคนิคในการลดความอ้วน แบบ “ดื่มโปรตีนพืชทดแทนมื้ออาหาร” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการ “ลดน้ำหนัก” ฉบับคนที่อยากผอมไว นั้นก็คือการดื่มโปรตีนพืชทดแทนมื้ออาหารนั้นเอง เพราะการที่เราอดอาหารแล้วดื่มโปรตีนพืชทดแทนอาหาร โปรตีนพืชจะให้คุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่า สลัด 1 จาน ซึ่งจะประกอบไปด้วย
โปรตีนพืช ที่ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อ ทดแทนเนื้อสัตว์เช่นอกไก่ได้ดีกว่า เพราะเนื่องจาก โปรตีนพืช ไม่มีคอเลสเตอรอลที่เป็นความเสี่ยงต่อโรคหัวใจเเละไขมันอุดตัน และยังช่วยให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะสามารถเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ “เมตาบอลิซึม” หรือระบบเผาผลาญเราได้ดีนั้นเอง และ โปรตีนพืช ยังมีส่วนช่วยซ่อมเเซมมวลกล้ามเนื้อที่สึกหรอ ลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย ลดภาวะการเกิดภาวะกล้ามเนื้ออ่อนล้าหรือกล้ามเนื้อสลายได้ที่สำคัญ โปรตีนพืชยังย่อยง่ายกว่าโปรตีนสัตว์ด้วยนั้นเอง



ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY