กรมอนามัยเตือน ขับรถทางไกล ควรระวัง ดื่มกาแฟ-เครื่องดื่มชูกำลังมากไป เสี่ยงหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และอ่อนล้าได้ง่าย
อย่างที่ทราบกันดีว่าเดือนนี้เป็นเดือนที่มีกำหนดวันหยุดยาว กว่าในเดือนอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนต่างพากันกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างล้นหลาม
ทางกรมอนามัยจึงออกหนังสือเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ที่จะเดินทางกลับบ้านช่วงวันหยุดยาว ควรงดหรือเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทกาแฟ และเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง อ่อนล้าจนมีอาการมึนงง และส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ รวมทั้งควรเลี่ยงอาหารประเภทแป้ง และผักที่ย่อยยาก ช่วยลดอาการง่วงนอนได้

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การขับรถทางไกลช่วงสงกรานต์ อาจทำให้มีอาการง่วงและเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ผู้ขับขี่บางรายจึงนิยมดื่มกาแฟ เพราะมีสารคาเฟอีนเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัว สามารถขับรถต่อเนื่องได้นาน โดยปกติร่างกายไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน
การดื่มกาแฟกรือคาเฟอีนเกินกว่า 500 – 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ส่งผลให้เกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว มือสั่น ใจสั่น คลื่นไส้ หลังจากดื่มกาแฟไปแล้วประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงคาเฟอีนจะออกฤทธิ์ ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ร่างกายต้องสูญเสียเกลือแร่ คือ โซเดียมและแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้นด้วย

ส่วนเครื่องดื่มประเภทชูกำลังมีปริมาณคาเฟอีน 50 มิลลิกรัมและมีปริมาณน้ำตาล 25-26 กรัมต่อขวด แม้หลายคนจะมีความเชื่อว่า เครื่องดื่มชูกำลังจะทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง จึงเป็นสาเหตุให้ละเลยการพักผ่อน ทำให้ยิ่งอ่อนล้าจนมีอาการมึนงง อีกทั้งยังส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ การดื่มกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำ จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดได้
ผู้ขับรถทางไกล ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันเดินทาง และควรเปลี่ยนจากเครื่องดื่มชูกำลังหรือกาแฟมาเป็นดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6 – 8 แก้วต่อวันแทน โดยเน้นจิบบ่อยๆระหว่างเดินทาง
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอนามัย