อัปเดตความรู้! ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอาจเกิดอาการ “เลือดกำเดาไหล” ได้ แต่ห้ามเงยหน้า มาดูวิธีปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง
เลือดกำเดาไหล มักเกิดในเด็กมากกว่าในผู้ใหญ่ และเกิดในช่วงเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จากที่ร้อนมาที่หนาวแบบฉับพลัน หรือช่วงหนาว ทำให้เยื่อบุจมูกพลอยแห้งและตกสะเก็ดตามไปด้วย เมื่อสะเก็ดถูกแคะแกะเกา ก็ทำให้เลือดออกตามมาสาเหตุอื่นที่พบได้บ่อยคือในช่วงที่เป็นหวัดหรือการอักเสบของทางเดินหายใจส่วนบนหรือกรณีที่มีไข้สูงจากสาเหตุใดก็ตาม เส้นเลือดฝอยเล็ก ๆ ในจมูกอาจแตกและทำให้เลือดกำเดาไหลได้เช่นกัน

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหล ได้แก่
1. อากาศแห้ง
2. แคะจมูก สั่งน้ำมูกแรง
3. จมูกได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง
4. การใช้ยาบางชนิดที่ทำให้โพรงจมูกแห้ง เช่น ยาแก้แพ้ (Antihistamines) เป็นต้น
5. โรคบางชนิด เช่น โรคภูมิแพ้ โรคฮีโมฟีเลย โรคหวัด เป็นต้น
คำแนะนำสำหรับการปฐมพยาบาลคือ
1. บีบที่จมูกโดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ ประมาณ 5 นาที โดยระหว่างนี้ให้หายใจทางปากแทน
2. นั่งตัวตรงหรือนอนให้ศีรษะสูง เพื่อป้องกันการสำลักเลือด
3. ประคบบริเวณจมูกและแก้มด้วยผ้าเย็น หรือน้ำแข็ง เพื่อช่วยให้เลือดหยุดเร็วขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการแคะจมูก การสั่งน้ำมูกแรง ๆ และการยกของหนัก
5. กรณีอากาศแห้งในช่วงหน้าหนาว อาจใช้วาสลินครีม หรือขี้ผึ้งทาบริเวณเยื่อบุจมูกเพื่อให้เกิดความชุ่มชื้น
6. หากมีไข้ควรให้ยาลดไข้ร่วมด้วย
สัญญาณที่บ่งบอกว่าควรไปพบแพทย์
1. เลือดกำเดาไหลออกบ่อย ๆ ในช่วงเวลาที่ใกล้กัน หรือจำนวนมาก
2. เลือดออกข้างเดียวเรื้อรัง
3. มีอาการอื่น ๆ ร่วมเช่น อ่อนเพลีย หน้ามืดจะเป็นลม
4. ไม่ทราบสาเหตุของการเกิดเลือดกำเดาไหล
ซึ่งทั้งนี้ความรู้เดิมที่เราเคยใช้กันที่ว่า เมื่อเกิดเหตุการ์ณเลือดกำเดาไหลให้เงยหน้า นั้นเป็นห้ามทำเด็ดขาด เพราะหากเงยหน้าอาจทำให้กลืนเลือดลงสู่กระเพาะอาหารแล้วทำให้เกิดการอาเจียน จนอาจทำให้อาหารเป็นพิษได้ ดังนั้น ไม่ควรเงยหน้า และหากมีเลือดไหลลงสู่ลำคอ ควรรีบคายเลือดออกมา
แหล่งที่มา โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY