6 เคล็ดไม่ลับ! การดูแล วิธีการป้องกัน โรคกระดูกพรุน ภัยเงียบที่มองไม่เห็นพบบ่อยในผู้สูงอายุ ไม่มีอาการใดๆ จนกระทั่งล้มแล้วมีกระดูกหัก
โรคกระดูกพรุน คือโรคที่ทำให้ความแข็งแรงของมวลกระดูกลดลง จนเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้กระดูกหัก เพราะโดยปกติแล้วร่างกายคนเราจะสะสมมวลกระดูกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 30-35 ปี จากนั้นมวลกระดูกจะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน มวลกระดูกจะลดลงอย่างรวดเร็ว และเมื่ออายุมากกว่า 65 ปี มวลกระดูกจะลดต่ำลงจนถึงจุดเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก

ปัจจัยเสี่ยงกระดูกพรุน
- เพศ ผู้หญิงเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าและเร็วกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะเมื่อหมดประจำเดือน หรือผ่าตัดรังไข่ออกทั้ง 2 ข้าง การสลายกระดูกจะเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากขาดฮอร์โมนเพศ จึงเริ่มสูญเสียมวลกระดูกอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้หญิงมีโอกาสเกิดกระดูกหักได้ถึง 40 – 50%
- อายุ มวลกระดูกของคนเราหนาแน่นที่สุดเมื่ออายุประมาณ 30 ปี หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ
- ผู้หญิงอายุเกิน 60 ปี โอกาสเกิดกระดูกพรุน 10 คน ใน 100 คน
- ผู้หญิงอายุเกิน 70 ปี โอกาสเกิดกระดูกพรุน 20 คน ใน 100 คน
- ผู้หญิงอายุเกิน 80 ปี โอกาสเกิดกระดูกพรุน 40 คน ใน 100 คน
- กรรมพันธุ์ ในครอบครัวที่พ่อหรือแม่มีโรคกระดูกพรุนแล้วมีกระดูกหัก ลูกจะมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนแล้วกระดูกหักด้วย
- เชื้อชาติ ชาวต่างชาติที่มีผิวขาวและคนเอเชียมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนสูง
- ยา การได้รับยาบางชนิดเป็นเวลานานทำให้มวลกระดูกบางลง เช่น กลุ่มยาสเตียรอยด์ในผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, ผู้ป่วยโรค SLE (โรคพุ่มพวง)ยาทดแทนธัยรอยด์ ยาป้องกันการชัก เป็นต้น
- เคยกระดูกหัก โอกาสที่จะเกิดกระดูกหักซ้ำเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2.5 เท่า
- แอลกอฮอล์ การดื่มเหล้า เบียร์ หรือแม้แต่ไวน์ในปริมาณมากกว่า 3 แก้ว/วัน ทำให้มีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนเร็วขึ้น
- บุหรี่ สารพิษนิโคตินเป็นตัวทำลายเซลล์สร้างมวลกระดูกทำให้กระดูกบางลง หากสูบบุหรี่มากกว่า 20 มวน/วัน ความเสี่ยงต่อกระดูกสะโพกหักสูงขึ้น 1.5 เท่าของคนไม่สูบบุหรี่
- ผอมเกินไป คนที่ผอมเกินไปจะเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่า และมีความเสี่ยงกระดูกหักเพิ่มขึ้น 2 เท่าของคนรูปร่างปกติ
- ขาดสารอาหาร การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ นอกจากทำให้ร่างกายเสียสมดุลแล้วยังอาจขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างมวลกระดูก โดยเฉพาะแคลเซียม วิตามินดี และโปรตีน
- ขาดการออกกำลังกาย คนไม่ออกกำลังกายมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่า พบว่า ผู้หญิงที่นั่งมากกว่า 9 ชั่วโมง/วัน เสี่ยงกระดูกสะโพกหักมากกว่าผู้หญิงที่นั่งน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันถึง 50%
- การรับประทานอาหาร ถ้าได้รับเกลือมากกว่า 1 ช้อนชา/วัน ชา กาแฟมากกว่า 3 แก้ว/วัน น้ำอัดลมมากกว่า 4 กระป๋อง/สัปดาห์ และทานโปรตีนมากกว่า 10 – 15% ในแต่ละมื้อของอาหาร มีความเสี่ยงกระดูกพรุนสูง เนื่องจากอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวจะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียม ส่วนอาหารเค็มจัดและคาเฟอีนยังทำให้ร่างกายขับแคลเซียมมากขึ้นอีกด้วย
6 วิธีการป้องกับโรคกระดูกพรุน
- ดื่มนม และกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง โดยสามารถทำได้ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงอายุ 30ปี เพื่อสะสมแคลเซียมในกระดูก ทั้งผักใบเขียวต่าง ๆ เช่น ผักคะน้า บรอกโคลี่ ปลาตัวเล็ก ๆ พร้อมกระดูก กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง งาดำ กะปิ เป็นต้น
- กรณีที่ได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่เพียงพอ สามารถกินแคลเซียม และวิตามินดีเสริม เพื่อให้กระดูกคงสภาพที่ดี และลดความเสี่ยงต่อกระดูกหัก
- ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง เพื่อช่วยลดการสลายของแคลเซียมจากกระดูก
- หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้า และสูบบุหรี่
- ไม่นั่ง ๆ นอน ๆ เป็นเวลานาน โดยไม่ขยับเขยื้อนร่างกาย
- ระมัดระวังตัวเอง และไม่วางของเกะกะในบ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการสะดุด หกล้ม
โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่ก็สามารถตรวจได้ด้วยเครื่องตรวจมวลกระดูก โดยเครื่องจะใช้รังสีปริมาณเล็กน้อย เพื่อสแกนจุดสำคัญในร่างกาย 2 จุด คือ บริเวณกระดูกสันหลัง และกระดูกสะโพก เนื่องจากบริเวณนี้ หากพบภาวะกระดูกพรุน และหักจะเกิดอันตรายส่งผลกับคุณภาพชีวิตมาก
แหล่งที่มา princsuvarnabhumi และ bangkokinternationalhospital
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY