ดวงเมือง เศรษฐกิจไทย ปี 2567 ต่อจากนี้เศรษฐกิจไทยจะมีชะตากรรมไปในทิศทางใด เช็กเลย!
เดินทางมาถึงช่วงกลางปี 2567 กันเรียบร้อยแล้ว หากพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจในปีนี้ เรียกได้ว่าขยับดีขึ้นมาเรื่อยๆจากปีก่อนๆที่โลกเราได้ประสบปัญหาโรคระบาดโควิด-19 จำกันได้ไหมคะว่าช่วง 3 – 4 เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกเกิดการชะงัก หลายกิจการพากันปิดตัวลง ซึ่งมาถึงในปีนี้ 2567 สถานการณ์ดีขึ้นอย่างมาก การท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติมีเข้ามามากขึ้น เวลาที่เหลือ 6 เดือนหลังของปี 2567 ดวงเศรษฐกิจ ไทยจะเป็นอย่างไรกันบ้าง เราไปเช็กกันเลยค่ะ!
ดวงเศรษฐกิจไทย 2567
เศรษฐกิจของประเทศไทยในช่วงต้นปีถือว่าอยู่ในจุดที่ทรงๆ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะดวงเมืองราหูเพิ่งย้าย และดาวเสาร์ยังโคจรเดินหน้าไม่เต็มที่ ส่งผลให้ประชาชนจะมีปัญหาเรื่องการทำมาหากินที่ไม่ค่อยสะดวก ธุรกิจ SME อาจจะยังมีกำไรน้อย และกำลังซื้อในประเทศยังไม่เพิ่มขึ้น อีกทั้งดอกเบี้ยเงินกู้และหนี้สาธารณะจะทำให้รัฐบาลมีข้อจำกัดเรื่องการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยช่วง 3 เดือนแรก คือ มกราคม-มีนาคม ถือว่าเป็นช่วงที่คนในประเทศจะรู้สึกว่าเศรษฐกิจแย่ ไม่ฟื้น มีปัญหาเรื่องการค้าขาย การลงทุน ตลาดหุ้นยังไม่ดี ราคาที่ดินอสังหาริมทรัพย์ทรงตัว และประชาชนมีปัญหาหนี้เสีย โดนยึดรถและที่อยู่อาศัยเยอะ ซึ่งถ้าบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจแล้วมีปัญหาเรื่องการเงินและหนี้สินมาตั้งแต่ปี 2566 ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะจะมีความเสี่ยงพอสมควรที่ธุรกิจจะมีปัญหาหรือล้มละลาย ถือว่าเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ค่อนข้างแย่ จัดเป็นบททดสอบของประชาชน นักธุรกิจ นักลงทุน และรัฐบาลที่ต้องผ่านให้ได้
ทว่าพอเข้าช่วงเดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว และการลงทุนจะเริ่มส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น โดยเริ่มต้นจากกระแสธุรกิจการท่องเที่ยวจะกลับมาดีอีกครั้ง หลังจากปัญหาโควิดปี 2563 ที่การท่องเที่ยวของประเทศไทยตกไป ปีนี้การท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นกระแสทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งจะตามมาด้วยการลงทุนของชาวต่างชาติ รวมไปถึงตลาดหุ้นของประเทศจะค่อยๆ ขึ้นอย่างช้าๆ
จนถึงช่วงกลางปี ที่ตลาดหุ้นของประเทศไทยอาจจะมีมูลค่าการซื้อขายและการลงทุนจากต่างประเทศพุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ผ่าน ทั้งนี้ผลกระทบที่ต้องระวังคือ ราคาสินค้า อาหารการกิน และที่ดินอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น รัฐบาลจะต้องเริ่มประกาศขึ้นค่าแรงทันทีในช่วงกลางปี เพราะถ้ารัฐบาลไม่ขึ้นค่าแรง หรือออกกุฎหมายใหม่ๆ เข้ามาควบคุมดูเรื่องการลงทุนและการเกิดธุรกิจประเภทใหม่ๆ ที่กำลังได้รับความนิยม จะส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจน รวมถึงจะมีปัญหาเรื่องอาชญากรรมและการฉ้อโกงตามมาจำนวนมาก ซึ่งผลที่สุดก็คือ ภาพลักษณ์รัฐบาลเสียหายและเศรษฐกิจโตแบบไม่ยั่งยืน
ช่วงกลางปี เศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีกว่าช่วงต้นปีมาก และอาจจะดีกว่าช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ เพราะจะมีการออกธนบัตร เหรียญ และเงินบาทแบบใหม่เข้ามาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ กระตุ้นให้ประชาชนมีกำลังซื้ออีกทั้งนโยบายด้านภาษีต่างๆ จะมีออกมาช่วยกระตุ้นให้ประชาชนสามารถเป็นเจ้าของบ้านหรือรถยนต์ได้ในราคาที่ถูกกว่าเดิม ทั้งนี้รัฐบาลก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะในช่วงปลายปี รัฐบาลจะต้องเข้ามาดูแลเรื่องตลาดหุ้น การลงทุนจากต่างประเทศ และอาจจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเรื่องการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติใหม่ ไม่เช่นนั้นราคาที่ดินจะพุ่งสูงขึ้น จนเกินกว่ากำลังซื้อของคนในประเทศไทย นอกจากนี้บริษัทธุรกิจอสังหาฯ ในไทยบางแห่งอาจจะมีปัญหาเรื่องการเงิน จนถูกบริษัทชาวต่างชาติเทกโอเวอร์ไปแล้ว ส่งผลให้คนไทยมีปัญหาเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัย ประกอบกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูง และรัฐบาลยังเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนไม่ทัน การลงทุนของชาวต่างชาติที่เข้ามามากๆ อาจกลายเป็นการเปิดช่องให้คนต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจคนไทยได้ง่าย และการแก้ไขกฎหมายเรื่องการลงทุนของชาวต่างชาติ หรือการออกกฎหมายควบคุมนักท่องเที่ยวก็อาจทำให้รัฐบาลไทยมีปัญหากับนโยบายการค้า และขัดแย้งกับชาติมหาอำนาจอย่างเลี่ยงไม่ได้
ช่วงปลายปี เศรษฐกิจจะตกลงจากช่วงกลางปี เพราะธุรกิจการลงทุนและการท่องเที่ยวจะมีปัญหาจากความขัดแย้งกับต่างชาติซึ่งอาจรวมถึงชาติมหาอำนาจต่างๆ ด้วย รวมถึงปัญหาเรื่องสงครามความขัดแย้งที่อยู่นอกประเทศก็จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุนช่วงปลายปี ช่วงนี้รัฐบาลจึงควรจะหันมาเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน สนับสนุนธุรกิจการลงทุนและการท่องเที่ยวภายใน
ที่มา โหรวสุ วิเคราะห์ดวงเมืองประเทศไทยปี 2567