คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลสอบของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ชี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่า ต้องบอกว่าเป็นเรื่องตลกร้าย ถ้าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ แล้วมีการใช้มาตรา 44 ปลดคน ได้อย่างไร
และศาลฎีกาก็วินิจฉัยแล้วว่า หัวหน้า คสช. เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หากวินิจฉัยเช่นนี้ก็ไม่ต้องมีหลักอะไรหรือไม่ต้องเลือกตั้งก็ได้ การตีความเข้าข้างตัวเอง จะฝืนความรู้สึกประชาชนอย่างไรก็ไม่สนใจ ขอเพียงได้อยู่ในอำนาจต่อไป ดังนั้นต้องฝากความหวังไปที่ศาล กกต. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะปล่อยให้บ้านเมืองเป็นแบบนี้หรือไม่
นอกจากนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ บอกว่า พรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ อาจทำให้ประเทศเกิดเด็ดล็อกนั้น ว่า ต้องถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 5 ปีเศรษฐกิจดีหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ทางเลือกมีสองทางเท่านั้น คือพรรคการเมืองที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ กับพรรคการเมืองที่ไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจคือไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์
ส่วนนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจอายัดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาทโดยถูกข้อกล่าวหาฉ้อโกงนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ให้ความเห็นว่า กรณีนี้มีการใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มที่ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยก็โดนหลายคน หากมีการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ ขอให้ระวังจะถูกฟ้องอาญากลับตามมาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา
“ตอนนี้มีการใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงินเต็มที่ แต่ กกต. ก็ไม่ตรวจดู จึงต้องฝากความหวังไว้ที่ กกต. ช่วยเมตตาประชาชน เพราะการเลือกตั้งเป็นความหวังของประชาชน ตอนนี้เหลือเพียงอย่างคือการโกงวันเลือกตั้ง”
นอกจากนี้คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเป็นห่วงวันเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค.นี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนจะเก็บบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ที่ไหน จึงอยากขอความชัดเจนจาก กกต.ด้วย และจะมีการเปิดนับคะแนนที่ไหน เพราะบัตรเลือกตั้งล่วงหน้ามีมากถึงเกือบ 3 ล้านกว่าใบ จึงฝากความหวังไปที่ กกต. ให้ดูในเรื่องการใช้อำนาจรัฐ ตอนนี้จึงเหลือประตูสุดท้ายคือโกงการเลือกตั้ง