ญาติโวยมือมีดฆ่าปาดคอลูกชายทำเกินกว่าเหตุ สุดเศร้าหลานกำพร้าพ่อ-แม่ ด้านผู้ก่อเหตุรอมอบตัวและพนมมือ ท่องคาถาบางอย่าง
จากกรณีวัยรุ่นถูกอาวุธมีดปาดคอเสียชีวิต บริเวณริมถนนนาคนิวาส ใกล้ปากซอยนาคนิวาส 5 ย่านลาดพร้าว เจ้าตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ) ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนายวิศรุต บุญจริก อายุ 18 ปี โดยมี นายยูโร (นามสมมุติ) อายุ 14 ปีคนขับรถจยย.เพื่อนผู้ตายยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ความคืบล่าสุด 12 พ.ค. เมื่อเวลา 07.00 น. ที่สน.โชคชัย นางสาวสนธยา อนันสุข อายุ 40 ปี มารดาของนายวิศรุตผู้เสียชีวิต พร้อมญาติได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อเป็นประกอบสำนวนคดีส่งให้อัยการสั่งฟ้องดำเนินคดี กับนายสุรศักดิ์ จุลเพช็ร อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดปาดคอนายวิศรุต จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึงของคืนวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา
โดยน.ส. สนธยา กล่าวว่า วันนี้ทางตำรวจได้นัดมาสอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีที่ลูกชายถูกปาดคอเสียชีวิต เมื่อคืน (11 พ.ค.) ซึ่งหลังเกิดเหตุช่วงประมาณ 01.30 น.ได้มีคนโทรมาบอกว่าลูกชายถูกปาดคอเสียชีวิตแล้ว ที่ปากซอยนาคนิวาส 5 ตนก็รีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุแต่ไม่ทันได้เห็นหน้าลูก เนื่องจากระยะทางไกลทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บร่างลูกชายใส่รถเรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจก็เลยให้เดินทางมาที่ สน.โชคชัย เพื่อสอบปากคำ ซึ่งทางตำรวจก็ทำงานกันอย่างรวดเร็วสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว และให้ตนกลับมาพักผ่อนโดยนัดสอบปากคำอีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้
“สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุใดเมื่อมาถึงโรงพักก็มาเจอเพื่อนของลูกชายที่ไปด้วยกันบอกว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายจะไปเอาเงินจากร้านส้มตำที่เคยทำงานอยู่ก่อนหน้านี้ แล้วก็พบผู้ก่อเหตุนั่งกินเหล้าอยู่ที่ร้านและพูดจาไม่ดี ก็เกิดมีปากเสียงกันขึ้นหลังจากนั้นลูกชายก็ขับรถไปเจอคู่กรณีอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมันโหดร้ายเกินไป ถ้าคิดว่าเป็นการป้องกันตัวทำไมต้องเอาให้ถึงตายและเป็นจุดที่สำคัญของร่างกายด้วย ซึ่งตนเองก็รู้ว่าลูกชายเป็นคนใจร้อน แต่ก็ไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ซึ่งมันโหดร้ายเกินไป อีกทั้งลูกชายก็ยังอายุน้อยอยู่ ซึ่งตัวลูกชายก็ยังมีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ เนื่องจากเป็นหัวหน้าครอบครัวลูกก็ยังเล็ก ส่วนภรรยาก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา” น.ส.สนธยา กล่าว
ด้านนายโร (นามสมมุติ) เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในวันเกิดเหตุ นายวิศรุตได้บอกกับเพื่อนๆ ว่าจะออกไปเอาเงินที่ร้านส้มตำ ตนก็เลยอาสาไปด้วยพอไปถึงร้านก็เดินเข้าไปในร้านและได้พูดคุยกันอยู่สักพักส่วนคู่กรณีนั้นอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน จากนั้นผู้ตายก็เดินเข้ามาหาตนแล้วบอกว่า “น้าคนนี้พูดจาจงใจหาเรื่องเรา พี่จะเอาไม” ตนก็เลยตอบไปว่าแล้วแต่พี่ แต่พี่ก็ต้องใจเย็นๆ หน่อยลูกพี่ก็ยังเล็กอยู่ แต่ผู้ตายก็ไม่ได้ตอบอะไร หลังจากนั้นคู่กรณีก็เดินออกจากร้านไป จากนั้นตนและผู้ตายก็นั่งคุยกันอยู่สักพักหนึ่ง นายวิศรุตก็บอกว่าอย่างนั้นเรากลับบ้านกัน ขณะที่ขับรถเพื่อเดินทางกลับบ้านก็มาเจอคู่กรณีอยู่ที่ป้ายรถเมล์ใกล้ปากซอยนาคนิวาส 21 ทางผู้เสียชีวิตก็วิ่งเข้าไปทำร้ายเขาทันทีจึงเกิดการต่อสู้กันขึ้น ก่อนที่ นายวิศรุตจะถูกอาวุธมีดปาดที่ลำคอได้รับบาดเจ็บ ตนให้ผู้ตายซ้อนรถจยย.เพื่อจะไปส่งโรงพยาบาล แต่ระหว่างทางนายวิศรุตมีอาการหมดสติและได้หล่นจากรถ นอนกลางถนนเสียชีวิตดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุทางตำรวจได้จับตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ทราบชื่อคือนายสุรศักดิ์ จุลเพช็ร อายุ 31 ปีชาวจังหวัดเลย มีอาชีพขายล็อตเตอรี่ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยนาคนิวาส 21 ในสภาพนั่งลักษณะขัดสมาธิ พนมมืออยู่และท่องคาถาบางอย่าง โดยให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงและไม่คิดว่านายวิศรุตจะถึงตาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.โชคชัย ก่อนแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” นำตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 พ.ค.62 พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี