ปัจจุบันเราใช้ชีวิตประจำวันด้วยความเร่งรีบ ทั้งการทำงาน การเดินทาง ทำให้ผู้คนไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารด้วยตัวเองมากนัก “อาหารแช่แข็ง” จึงเป็นทางเลือกที่หลายคนนิยมนำมากินกัน แต่หลายคนก็บอกว่าอาหารแช่แข็งเป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ควรกิน วันนี้เรามาหาคำตอบกันว่า อาหารแช่แข็ง นั้นอันตรายต่อสุขภาพมากขนาดนั้นหรือไม่
อาหารแช่แข็ง ไม่ได้ทำให้คุณค่าและโภชนาการลดน้อยลงเหมือนที่ใครคิด ถ้าหากการแช่แข็งนั้นทำได้มาตรฐานและถูกวิธี ก็จะสามารถคงคุณค่าอาหารได้มาก โดยเฉพาะผลไม้ที่เมื่อนำมาแช่แข็ง มักจะคงสารอาหารได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากผลไม้จะถูกเก็บตอนที่สุกตามธรรมชาติแล้ว หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งทันที และหากกระบวนการแช่แข็งทำภายใน 2 – 3 ชั่วโมง หลังจากเก็บ ก็จะช่วยป้องกันการสูญเสียโภชนาการได้มากทีเดียว
การแช่แข็งเป็นการแปรรูปอาหารเพื่อถนอมอาหารอย่างหนึ่ง โดยการลดอุณหภูมิของอาหารให้ต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส หรือ 0 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อคงความสดและรสชาติของอาหารไว้ให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น อาหารที่ผ่านกระบวนการแช่แข็ง สามารถเก็บเอาไว้ได้นาน 6 เดือนถึง 2 ปี
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการละลายน้ำแข็ง ซึ่งเราจะต้องรู้วิธีการละลายน้ำแข็งอย่างถูกวิธี หากเราไม่รู้วิธีที่ถูกต้อง ในขั้นตอนละลายน้ำแข็งก็ทำให้อาหารสูญเสียโภชนาการไปได้
วิธีละลาย อาหารแช่แข็ง ที่เหมาะสมที่สุด ควรใช้วิธีที่ละลายน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะจะทำให้อาหารคืนตัว และมีคุณภาพดี หนึ่งในวิธีการนี้คือการใช้เตาไมโครเวฟ ซึ่งไมโครเวฟส่วนใหญ่มีคู่มือแนะนำเรื่องระยะเวลาและวิธีการในการละลายอาหารแช่แข็งไว้ให้ หรือเราจะละลายน้ำแข็งโดยการนำอาหารแช่แข็งมาใส่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาไว้ล่วงหน้าก่อนก็ได้ เพื่อให้น้ำแข็งละลายหมดทั่วทั้งชิ้น หรือก่อนถึงเวลาปรุงให้ละลายน้ำแข็งโดยเปิดให้น้ำไหลผ่านหีบห่อของอาหาร แต่ห้ามแช่อาหารไว้ในอ่างน้ำขัง หรือใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่นในการละลายอาหาร ที่สำคัญไม่ควรละลายอาหารโดยการวางทิ้งไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิห้อง เพราะว่าจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
อาหารแช่แข็ง ไม่ได้อันตรายอย่างที่ทุกคนคิด แต่อันตรายที่ว่านั้น อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนก่อนนำอาหารไปปรุงสุก หรืออันตรายที่มาจากอาหารที่อาจใส่ปริมาณโซเดียมและสารกันบูดมากเกินไป ดังนั้น เราสามารถกินได้ ปลอดภัย เพียงแต่อย่ากินบ่อยมากเกินไปเท่านั้นค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Did You Know…
บทความที่เกี่ยวข้อง