สำหรับบางคนช่วงวัยเรียนอาจเป็นเวลาที่ดีที่สุดช่วงหนึ่งที่ถูกเก็บไว้อย่างดีในกล่องความทรงจำ แต่กับบางคน…วัยประถม มัธยมต้น หรือแม้กระทั่งมัธยมปลาย กลับเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายและไม่น่าจดจำ จากการถูกกลั่นแกล้ง ล้อเลียน หรือดูถูกที่ส่งผลกระทบทางจิตใจ แต่เชื่อไหมคะว่าบางครั้งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นแรงผลักดันชั้นดีที่ทำให้เราฮึดสู้ เหมือนกับ 5คนดังต่อไปนี้ที่เคยถูก ‘รังแก’ ทางจิตใจ แต่สามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นความมุ่งมั่นในชีวิต จนพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากมายและกลายเป็นบุคคลระดับโลกในวันนี้
พวกเขามีวิธีรับมือและจัดการกับการถูกรังแกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่เพียงทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเท่านั้น แต่ยังก้าวสู่การเป็นผู้นำของแต่ละวงการอีกด้วย มาดูกันค่ะว่าคนดังทั้ง 5 คนนี้มีใครกันบ้าง
อีลอน มัสก์ (Elon Musk)
แม้เพิ่งจะมีข่าวฉาวไปเมื่อไม่นานมานี้ แค่ก็ไม่ได้ทำให้ความสำเร็จของ Elon Musk ลดลงไปเลย เขาไม่เพียงเป็น CEO ของ SpaceX, Tesla และ Neuralink เท่านั้น แต่ Musk ยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ Musk มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิโดยประมาณมากกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6.6 แสนล้านบาท) แต่ถ้าคุณพบเขาเมื่อหลายสิบปีก่อนในสนามเด็กเล่นที่แอฟริกาใต้ เขาอาจจะไม่ได้พูดหรือจินตนาการถึงเลยว่าชีวิตตัวเองจะสามารถสร้างผลกำไรที่มีประสิทธิภาพได้มากขนาดนี้
แม่ของ Musk เล่าให้นิตยสาร Esquire ฟังว่า ลูกชายของเธอเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดและตัวเล็กที่สุดในโรงเรียน เขาจึงถูกเด็ก ๆ ในโรงเรียนข่มขู่อยู่เสมอ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องค่อนข้างรุนแรงในแอฟริกาใต้ที่หากถูกรังแก แต่ก็ยังคงต้องตื่นเช้าและไปโรงเรียน ซึ่ง Musk เกลียดช่วงเวลานั้นมาก แต่โชคดีที่ Musk สามารถเอาชนะช่วงเวลานั้นและก้าวไปข้างหน้าได้ ในที่สุดเขาก็กลายเป็นหนึ่งในคนที่มีอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
ไมเคิล เฟลป์ส (Michael Phelps)
เฟลป์สตัดสินใจเกษียณตัวเองอย่างเป็นทางการจากการเป็น ‘นักว่ายน้ำ’ เมื่ออายุ 33ปี แต่เขายังคงเป็นนักกีฬาโอลิมปิกที่ได้รับเกียรติสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอเมริกา ด้วยการครองเหรียญรางวัลโอลิมปิกมากถึง 28 เหรียญ และหลายครั้งของการรับเหรียญรางวัลมาจากการสร้างสถิติใหม่ระดับโลก
ในวัยเด็ก ไมเคิล เฟลป์ส เติบโตในบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ ซึ่งทุกอย่างสำหรับเฟลป์สดูจะไม่ได้เป็นไปด้วยดีนัก เขาถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนล้อเลียนเรื่องบุคลิกและใบหูขนาดใหญ่ จนเขาต้องคอยสวมหมวกเพื่อปกปิดใบหูอยู่เสมอ และครั้งหนึ่งเขาใช้วิธีนิ่งเฉยต่อการล้อเลียนของเพื่อน จนทำให้ตัวเองเหมือนถูกลอยแพในโรงเรียน ตอนนั้นเองที่เขาปิ๊งไอเดียได้ว่าวิธีจัดการกับการกลั่นแกล้งที่ดีที่สุดคือการยืนหยัดเหนือสิ่งเหล่านั้น
บิลล์ คลินตัน (Bill Clinton)
แน่นอนว่าช่วงเวลาของการดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศเป็นช่วงที่เขาถูกละเลงด้วยเรื่องอื้อฉาวมากมาย แต่ประธานาธิบดีคนที่ 42 ของสหรัฐอเมริกา ก็สร้างอิมแพ็คอย่างมากต่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ แต่ก่อนที่เขาจะได้รับตำแหน่งซึ่งเป็นที่ปรารถนามากที่สุดในอเมริกา เขาเคยต้องต่อกรกับคนพาลในโรงเรียนมัธยมมาก่อน
คลินตันเป็นเด็กเติบโตขึ้นด้วยน้ำหนักที่มากเกินเกณฑ์ปกติของเด็กทั่วไป สิ่งนี้ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกที่ต้องรับฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์และคำเรียกขานว่า ‘อ้วน’ อยู่เสมอ รวมไปถึงการเยาะเย้ยเกี่ยวกับสไตล์การแต่งตัวของเขา ซึ่งคลินตันได้เขียนไว้ในหนังสือของตัวเองถึงกิจกรรมการเต้นของโรงเรียนแห่งหนึ่งว่า เขาถูกล้อเลียนเรื่องหน้าตาและถากถางว่าใส่กางเกงยีนส์เหมือนช่างไม้
อย่างไรก็ตาม เขาเก็บมันไว้และทุ่มเทความมุ่งมั่นลงไปกับความหลงใหลในการเล่นแซกโซโฟนจนกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในฐานะนักดนตรีคนหนึ่งด้วย ซึ่งอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า เขาได้เรียนรู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้ และมีมากกว่าหนึ่งวิธีที่จะต่อต้านการกลั่นแกล้งหรือการรุกรานเหล่านี้ได้
เซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin)
บรินคือหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทที่มีอำนาจมากที่สุดตลอดกาลแห่งหนึ่งของโลกอย่าง ‘Google’ ซึ่งเขามีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 5หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท) เซอร์เกย์ บริน ไม่เพียงติดอันดับ 13 ของบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเท่านั้น แต่เขายังคงสร้างความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีและการจัดการพื้นที่ (Space) ซึ่งบรินเคยมีประสบการณ์การถูกล้อเลียนเรื่องสำเนียงรัสเซียของเขาก่อนที่จะเริ่มโครงการเซิร์จเอนจิ้นด้วยเอกสารวิจัยที่ Stanford กับ Larry Page
สมัยเด็กๆ แม้ว่าบรินจะเป็นชาวยิวเช่นเดียวกับเด็กคนอื่นในโรงเรียนภาษาฮิบรู แต่เสียงของเขาทำให้เขารู้สึกถูกแบ่งแยกจากเพื่อนๆ และโดดเดี่ยว จนในที่สุดบรินต้องเปลี่ยนโรงเรียน ซึ่งนั่นกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้เขาประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่
เจ.เค. โรว์ลิ่ง (J.K. Rowling)
ใครจะไปเชื่อว่า ‘Harry Potter and the Sorcerer’s Stone’ ภาคแรกของหนังสือชุด Harry Potter ที่เป็นหนังสือชุดขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่เขียนโดย เจ.เค. โรว์ลิ่ง จะเคยถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์มากถึง 12 ครั้ง และแม้ในวันที่หนังสือเล่มนี้ถูกเปิดอ่าน เจ.เค. ก็กลายเป็นคนไร้บ้านไปแล้ว ซึ่งการที่เธอสามารถยืนหยัดรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะประสบการณ์ถูกดูแคลนอย่างโหดร้ายที่เธอเคยประสบมาก่อนในโรงเรียน
เจ.เค. แบ่งปันประสบการณ์ถูกกลั่นแกล้งของเธอในจดหมายตอบแฟนๆ ว่า การเขียน แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตในวัยเด็กที่ยากลำบากของเธอ และความเป็นจริงที่ว่า การเป็นวัยรุ่นนั้น ‘น่ากลัวอย่างยิ่ง’
แม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกยังเคยเป็น ‘เด็ก’ ที่ถูก ‘รังแก’ … แต่พวกเขาก็มีวิธีรับมือ และก้าวข้ามปัญหาเหล่านั้นมาได้ แล้วคุณล่ะ…มีวิธีจัดการปัญหาของตัวเองยังไง ไบรท์ออนไลน์แนะนำว่าให้ลองทำความเข้าใจแล้วใช้สตินะคะ เชื่อว่าคุณจะข้ามผ่านทุกความมืดสนิทในชีวิตไปได้อย่างแน่นอน!!!
ที่มา: www.theladders.com
