สังเกตไหมคะว่าช่วงนี้ผมของคุณ (โดยเฉพาะสาวๆ) ‘ร่วง’ มากกว่าที่เคยเป็น ยิ่งตอนสระผมหรือหวีผมด้วยแล้ว โอ้โห! บร๊ะจ้าววววว… ร่วงเหมือนวันพรุ่งนี้จะไม่มีให้ร่วงอีกแล้ว บางคนผมร่วงหนักมากจนวิตกกังวลไปถึงการเกิดโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรงต่างๆ นานา เอาเป็นว่า…วางความกังวลลงก่อนยังไม่ต้องตื่นตูม แล้วมาดูสาเหตุ ‘ผมร่วง’ ตามหลักวิทยาศาสตร์ที่ไบรท์ออนไลน์นำมาฝากกันก่อนดีกว่าค่ะ แล้วค่อยวิตกว่าจะไปปรึกษาแพทย์ดีหรือไม่
ดร. นิโคลา เคลย์ตัน (Dr. Nicola Clayton) จากสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศอังกฤษ อธิบายว่า โดยปกติผมของผู้หญิงจะร่วงทุกๆ วันอยู่แล้ว เพียงแต่อาจจะมีการร่วงเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งมีสาเหตุมาจากรูขุมขนบนหนังศีรษะมักจะเข้าสู่ระยะพัก (telogen phase) ในช่วงกลางฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม โดยผมที่อยู่ในระยะพักจะหยุดเจริญเติบโต และร่วงหลุดไปหลังจากนั้นประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งก็ตรงกับช่วงเวลานี้พอดิบพอดีเชียว
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ผมที่ร่วงหลุดไปจะขึ้นใหม่ตามปกติเอง เพราะวงจรชีวิตเส้นผมเรานี้ก็เป็นไปตามหลักวิวัฒนาการของมนุษย์เลยค่ะ นั่นคือเส้นผมจะมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นในฤดูหนาวเพื่อช่วยปกป้องร่างกายเราจากอากาศที่หนาวเย็น ส่วนในฤดูร้อนผมก็จะถูกผลิตและเจริญเติบโตหนาแน่นเพื่อป้องกันหนังศีรษะของเราจากรังสีอัลตร้าไวโอเลตนั่นเอง
ส่วนใหญ่แล้วการหลุดร่วงของเส้นผมจะกินระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่สัปดาห์ หรือบางคนก็ไม่กี่เดือน และอีกหลายคนที่มีผมร่วงอยู่ตลอดทั้งปี ซึ่งก็อาจทำให้เรากังวลได้เช่นกันว่า ผมร่วงแบบที่ฉันเป็นอยู่นี้…ปกติไหม? แล้วร่วงปริมาณมากเท่าไรจึงเรียกว่าผิดปกติและควรปรึกษาแพทย์
ปัญหานี้ ดร. เคลย์ตัน ไขข้อข้องใจให้ค่ะว่า โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงเราจะสูญเสียเส้นผมประมาณ 100 เส้นต่อวัน ไม่จำกัดนะคะว่าคุณจะมีสภาพผมแบบไหน เพียงแต่คนที่มีผมที่ยาวและหนาหรือผมหยาบ อาจรู้สึกว่าผม 100 เส้นที่ร่วงนั้นดูมีสภาพเป็นกระจุกใหญ่มากกว่าสาวๆ ที่มีสภาพผมเส้นเล็กและบางก็ได้
แต่ผู้หญิงบางคนอาจผมร่วงมากจากกรณีที่เรียกว่า ‘telogen effluvium’ เนื่องจากวงจรธรรมชาติของเส้นผมถูกรบกวนจนผมร่วงและหยุดพักแทนที่จะงอกและเจริญเติบโตตามปกติ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด การใช้ยาบางตัว หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่วนใหญ่พบได้ในเคสคุณแม่หลังคลอดค่ะ โดยจะกลับมาเป็นปกติภายใน 6 เดือน แต่หากผมยังคงร่วงต่อเนื่องหลังคลอดก็เป็นไปได้ว่ามีสาเหตุจากการขาดธาตุเหล็ก วิตามินดี อาจมีความผิดปกติที่ต่อมไทรอยด์ มีอาการผมร่วงและบาง จากสาเหตุทางกรรมพันธุ์และฮอร์โมน (Androgenic alopecia) หรือระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดพลาดทำให้เกิดการทำร้ายรูขุมขนบนหนังศีรษะ (Alopecia areata) ซึ่งกรณีหลังๆ ที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของร่างกายนี้ เพื่อความสบายใจขอแนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์นะคะ
นอกจากนี้อาจมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้สาวๆ มีอาการผมร่วงได้เหมือนกันค่ะ เช่น การย้อมผม การว่ายน้ำในสระคลอรีนเป็นประจำ การใช้ความร้อนหรือสารเคมีกับเส้นผม ซึ่งอาจทำให้ผมบอบบางและเกิดความเสียหายได้ ซึ่งเคล็ดลับง่ายๆ สำหรับสาวๆ ที่ผมร่วงตามฤดูกาลปกติ คือเมื่อรู้สึกว่าผมแห้งและมีแนวโน้มเส้นผมเสียจากการถูกทำลาย แนะนำให้ชะโลมครีมนวดผมทิ้งไว้ตอนกลางคืนแล้วล้างออกในเช้าวันรุ่งขึ้นค่ะ ควบคู่กับควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสม่ำเสมอก็จะช่วยได้นะคะ
เป็นไงคะ พอจะสบายใจกันขึ้นบ้างไหม? หรือยังหนักใจอยู่ว่าผมที่ร่วงกราวๆ นั้นเกิดจากปัญหาเส้นผมจริงๆ … อย่างที่บอกค่ะ ถ้าไม่แน่ใจลองไปปรึกษาแพทย์ดีที่สุดนะคะ
ที่มา: www.huffingtonpost.co.uk
