ยังไม่จบ! น้องแป้ง ดราม่าต่อผม ปรากฏตัวอีกครั้งเพื่อเข้าแจ้งความ เกรียนคีย์บอร์ด คอมเมนต์บูลลี่ไม่หยุด ทั้งเผยแพร่โลเคชั่นบ้าน-ตัดต่อรูป
เรียกได้ว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีดราม่าที่ทั่วโลกโซเชียลต้องจับตามอง เกี่ยวกับเรื่องราวของ น้องแป้ง ดราม่าต่อผม โดยเธอนั้นได้ร้องเรียนต่อสื่อว่าไปใช้บริการต่อผมที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่ง และหลังจากผ่านไป 5 วัน ผมที่ต่อมากลับร่วงเกือบหมดหัว ซึ่งทางร้านคู่กรณีเองก็ได้ชี้แจงว่า ในวันที่น้องแป้งมาใช้บริการ ทางร้านได้เตือนลูกค้าแล้วว่าไม่ควรต่อผมเคราติน เพราะหนังศีรษะของน้องแป้งยังเป็นแผลและมีอาการแพ้ แต่สุดท้ายน้องแป้งยังยืนยันที่จะทำ ผมจึงร่วง และเป็นเรื่องเป็นราวดั่งที่ไปออกใน รายการโหนกระแส เทปประจำวันที่ 15 มีนาคม 2567
โดยหลังจากที่ไปออกรายการต้องบอกว่า น้องแป้ง ถูกกระแสตีกลับหนักมาก จนกระทั่งล่าสุด วันที่ 22 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 11.00 น. น้องแป้งได้ปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมกับสามี ทนาย และหอบหลักฐานคอมเมนต์ต่างๆที่โดนชาวเน็ตบูลลี่ เพื่อแจ้งความเอาผิดกับเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลาย ณ สภ.คลองด่าน จ.สมุทรปราการ
โดยน้องแป้งนั้นได้มีป้ายฟิวเจอร์บอร์ดที่ติดข้อความว่า “สาวต่อผมโต้กลับแจ้งความเกรียนคีย์บอร์ดโดนทัวร์ลงไม่ตรงปกลิปซิงค์ล้อเลียน สร้างความอับอายกลายเป็นตัวตลก” และน้องแป้งยังได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า
น้องแป้งเปิดใจทั้งน้ำตา
เครียดค่ะ กระแสโจมตีหนักมาก มีโทรมาบ้างอะไรบ้าง แชทส่วนตัวด้วย เขาบอกว่าหิวเงินเหรอ พูดคำหยาบด้วย หลายๆอย่าง สภาพจิตใจหนูแย่มาก หนูเพิ่งได้เปิดร้านเพราะไม่กล้าเปิดร้านเลย หยุดร้านมานานเหมือนกันค่ะ ผลกระทบเยอะเลย แม้กระทั่งลูก
จุดที่ทำให้ต้องออกมาแจ้งความเพราะว่าเริ่มมีการบอกพิกัดกันแล้วว่าบ้านหนูอยู่ไหนอะไรแบบนี้ คิดว่าการที่ชาวเน็ตรู้พิกัดหรือเบอร์โทรก็น่าจะเป็นคนใกล้ตัว เรื่องต่อผมหลังจากจบรายการโหนกระแสวันนั้น ก็ได้มีพี่ใจดีคนหนึ่งมาเจอกัน เพราะหนูติดต่อไปปรึกษาพี่เขาตั้งแต่ผมร่วงแรกๆแล้ว ก็ไปต่อผมมาใหม่เป็นเคราตินเหมือนกัน พี่เขาต่อให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
วันนี้ที่มาแจ้งความคือหนูไม่ไหวแล้วค่ะ อยากฝากถึงคนที่คอมเมนต์ว่า อย่าทำแบบนี้เลยเพราะว่าความอดทนคนเรามันไม่เหมือนกัน ถ้าวันหนึ่งคนที่เขาอดทนได้น้อยกว่าหนู แล้วเขาคิดสั้นคิดมา มันก็อาจจะหนักกว่านี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามว่า มันมีจุดที่เราคิดสั้นด้วยหรือไม่? น้องแป้งก็ได้เงียบไปสักพักก่อนที่จะร้องไห้ออกมาและพูดว่า “มันก็แย่ค่ะ แต่พอเห็นหน้าลูก ลูกก็บอกว่า หม่าม๊าไม่เป็นไรนะ ยังไงก็ยังมีน้อง น้องเข้าใจ หนูคิดว่าหนูอยากหายไปเลย แต่ลูกก็บอกว่า น้องต้องเรียนถ้าหม่าม๊าไม่ทำงานแล้วน้องจะเอาเงินที่ไหนเรียน”
ทนายยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ขณะที่ทนายน้องแป้งนั้นได้ยืนยันเพิ่มเติมว่า ผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้วที่น้องแป้งได้มาพูดคุยผ่านรายการโหนกระแส กรณีที่คุยกับร้านต่อผมได้จบไปแล้ว แต่ในครั้งนี้ที่มาเพราะ การหมิ่นประมาท รวมถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทนายน้องแป้งยืนยันว่าจะตามจี้และดำเนินการให้ถึงที่สุด
ทนายกล่าวว่า มีการตัดต่อบูลลี่ ด่าหยาบคาย อีกทั้งยังมีการส่งโลเคชั่นบ้านของน้องแป้งเพื่อให้เกรียนคีย์บอร์ดไปคุกคาม ชาวเน็ตพวกนี้มักจะก่อกวน ณ วันนี้เกรียนคีย์บอร์ดก็ยังไม่หยุด ยังมีการคอมเมนต์ด่าทออย่างต่อเนื่อง วอนขอให้หยุดเพราะทนายเอาจริง การที่มาช่วยครั้งนี้ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายแต่ช่วยเพราะสงสารน้องแป้ง
