อาหารที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของนิวยอร์ก นอกจากฟาสต์ฟู้ดก็คือ “หอยนางรม” เหตุผลที่หอยนางรมได้รับความนิยมมากมายขนาดนี้ เพราะกินง่ายและราคาถูก จนทำให้นิวยอร์กเป็นแหล่งอุตสาหกรรมร้านอาหารและส่งออกหอยที่เฟื่องฟูมาก แต่การกำจัดเปลือกหอยของพวกเขากลับไม่ใช่การทิ้งเปลือกลงทะเล แต่ใช้วิธีการเผาแทน จนทำให้เกิดขยะเปลือกหอยปริมาณมหาศาล สร้างมลพิษทางอากาศอย่างรุนแรง อีกทั้งยังปล่อยน้ำเสียลงทะเล สร้างมลพิษให้น้ำ จนหอยนางรมเป็นพิษเกินกว่าจะเอามากิน ในขณะเดียวกันประชากรหอยก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชาวนิวยอร์กหันมารณรงค์ในด้านนี้กันมาก วันนี้เรามาดูกันว่าพวกเขาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร
ในปัจจุบันหอยนางรมก็ยังได้รับความนิยมอยู่ในนิวยอร์ก แต่พวกเขาได้หันมาฟื้นฟูระบบนิเวศธรรมชาตินี้โดย โปรเจกต์ รีไซเคิลเปลือกหอยแห่งนิวยอร์ก (The Billion Oyster Project (BOP)) ผู้ริเริ่มคือ The New York Harbor Foundation ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2014 มีเป้าหมายหลัก คือ ฟื้นฟูระบบนิเวศทางน้ำ เพาะพันธุ์ และพาหอยนางรมสองล้านล้านตัว กลับสู่ท่าเรือนิวยอร์ก ภายในปี ค.ศ. 2035
หอยนางรม มีส่วนสำคัญในระบบนิเวศ พวกมันเติบโตด้วยการกรองกินพืชน้ำขนาดเล็ก จึงกลายเป็นระบบกรองน้ำแบบธรรมชาติที่ดีทีสุด หอยนางรมหนึ่งตัวสามารถกรองน้ำได้ 30-50 แกลลอนต่อวันเลยทีเดียว
ขั้นตอนการดำเนินการของโครงการ พวกเขาจะเริ่มจากการรับบริจาคขยะเปลือกหอยจากร้านอาหารในเครือข่าย และร่วมมือกับโรงเรียนมัธยมที่สอนเกี่ยวกับเรื่องทะเล ในการทำวิจัยและเพาะพันธุ์หอยนางรมในห้องทดลอง ต่อมาจึงนำตัวอ่อนหอยมาเพาะต่อที่เปลือกหอยเก่า ซึ่งเปลือกหอยนางรมเก่าหนึ่งเปลือกสามารถเป็นบ้านให้หอยได้ถึง 20 ตัว เมื่อหอยโตเต็มที่จึงนำใส่กล่องตะแกรงเพื่อใช้เป็นปะการัง และขั้นตอนสุดท้ายคือนำไปติดตั้งตามท่าเรือ เพื่อฟื้นฟูคุณภาพของน้ำทะเลรอบเมือง
นอกจากนี้อีกความตั้งใจหนึ่งของโครงการคือ พวกเขาอยากทำให้โครงการนี้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับเด็ก จึงได้มีการออกแบบโครงการนี้ให้เป็นหลักสูตรเพื่อการศึกษาสำหรับนักเรียนประถมและมัธยม โดยจะได้ทำงานร่วมกับคุณครู และอาสาสมัคร เด็กทุกคนจึงมีโอกาสเข้ามามีบทบาทหลักในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ทำโครงงาน เพาะพันธุ์ ดูแลระบบโครงสร้างปะการัง ตรวจสอบ และติดตามคุณภาพน้ำ ไปจนถึงติดตั้งแนวปะการังอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับโครงการฟื้นฟูธรรมชาติดี ๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ น่าชื่นใจใช่ไหมล่ะคะ ที่เราได้เห็นการฟื้นฟูระบบนิเวศไปพร้อมกับการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เราเชื่อว่าโครงการนี้ต้องสามารถต่อยอดไปได้อย่างยั่งยืนในอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก greenery
ขอบคุณรูปภาพจาก Billion Oyster Project