เกิดมาแค่ครั้งเดียว ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า เมื่อถึงจุดสุดท้ายของชีวิต มนุษย์ทุกคนย่อมกลายเป็นฝุ่นผง แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเราเปลี่ยนจุดจบตัวเองให้เป็นประโยชน์ต่อโลก

บริษัท “Recompose” ได้มีแนวความคิดเปิดบริการเปลี่ยนศพให้เป็นปุ๋ยมนุษย์ ในปริมาณ 1 ลูกบาศก์เมตรภายใน 30 วัน
นวัตรกรรมดังกล่าวเกิดจากกระบวณการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานในการเปลี่ยนร่างมนุษย์ที่ไร่ลมหายใจให้เป็นปุ๋ยมนุษย์เพียง 1 ใน 8 ของการทำศพแบบธรรมดา พร้อมทั้งยังช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาศพมากถึง 1 เมตริกตัน นวัตกรรมการทำศพถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่า ‘Natural Organic Reduction’ หมายถึงการลดรูปแบบอินทรีย์ตามธรรมชาติ

โดย CEO ของ บริษัท Recompose ได้ระบุสถานที่ให้บริการแห่งแรกของโลก อยู่ที่ นครซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตันของสหรัฐฯ และสามารถให้บริการได้ถึง 75 ร่างพร้อมกัน
ในขั้นตอนแรก ทางบริษัทจะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปใส่ไว้ในกล่องรูป 6 เหลี่ยม ซึ่งเป็นกล่องที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่หลายครั้ง ก่อนจะกลบร่างผู้เสียชีวิตด้วยเศษไม้ชิ้นเล็กๆ จากพืชอัลฟัลฟา และฟาง กลบอย่างพิถีพิถันเพื่อสร้างความโปร่งให้ออกซิเจนสามารถผ่านได้สะดวก ซึ่งเหมาะกับการย่อยสลายร่างกายและการเติบโตของจุลินทรีย์กับแบคทีเรีย

เมื่อครบ 30 วันทางบริษัทจะส่งคืนปุ๋ยให้กับญาติของผู้เสียชีวิต หรือปุ๋ยบางส่วนจะถูกนำไปมอบให้กับโครงการคืนปุ๋ยสู่ธรรมชาติที่ Bell Mountain ในวอชิงตัน
การทำปุ๋ยมนุษย์ได้รับการอนุญาตจากทางการของมลรัฐวอชิงตันแล้วว่าให้เป็นวิธีทำศพรูปแบบใหม่ที่ถูกต้องตามกฏหมาย ทางบริษัท Recompose จะเริ่มเปิดให้บริการในปี 2021 และคาดว่ามีค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 5,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย 166,636 บาท
เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ให้เราได้ใช้ร่างกายครั้งสุดท้ายของชีวิต ให้เป็นประโยชน์กับโลก การจากไปแบบรักษ์โลก ให้ธรรมชาติได้ช่วยจัดการกับร่างกายของเรา