รู้ๆ กันอยู่ค่ะว่าความสามารถในการดมกลิ่นของ ‘เจ้าตูบ’ นั้นเฉียบคมแค่ไหน จึงไม่แปลกที่จะมีนักวิจัยดึงศักยภาพด้านนี้ของมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางการแพทย์ ด้วยการให้ สุนัขดมกลิ่น ตรวจหาเชื้อมาลาเรียจาก ‘ถุงเท้า’ ผู้ติดเชื้อ แล้วเชื่อไหมคะว่าพวกมัน ‘ทำได้’ จริงๆ
นักวิทยาศาสตร์จาก London School of Hygiene and Tropical Medicine (LSHTM) และ Medical Research Council Unit-Gambia (MRCG) ได้รวบรวมตัวอย่างถุงเท้าจากเด็กอายุ 5 ถึง 14 ปีในเขตUpper River ของแกมเบีย ในแอฟริกาตะวันตก โดยเด็กเหล่านี้มีเชื้อมาลาเรีย Plasmodium falciparum และถุงเท้าของพวกเขาถูกส่งไปยังองค์กร Medical Detection Dogs (MDD) ใน Milton Keynes สหราชอาณาจักร เพื่อให้สุนัขที่ฝึกดมกลิ่นทั้งถุงเท้าของคนที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ ผลปรากฏว่า ในถุงเท้าทั้งหมด 175 ตัวอย่าง สุนัขสามารถระบุตัวอย่างที่ติดเชื้อมาลาเรียได้อย่างถูกต้อง 70 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ร้อยละ 90 สามารถตรวจพบถุงเท้าของคนที่ไม่ติดเชื้อได้ แม้ผลการทดสอบนี้จะมีผลออกมาไม่สมบูรณ์แบบ 100% แต่ก็ทำให้ทีมวิจัยมองเห็นโอกาสที่จะสามารถเพิ่มความแม่นยำให้การตรวจสอบด้วยวิธีการดังกล่าวได้ในสภาพแวดล้อมจริงที่มีการระบาดของเชื้อมาลาเรีย อีกทั้ง ยังสามารถใช้วิธีการนี้ในการตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในขั้นต้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถนำผลไปต่อยอดทดสอบวินิจฉัยตามมาตรฐานต่อไป
ทั้งนี้ ในปี 2016 มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกประมาณ 445,000 คนจากโรคมาลาเรีย (ตามสถิติขององค์การอนามัยโลก) และเป็นตัวเลขที่แทบไม่แตกต่างจากปีก่อนหน้านั้น ซึ่ง James Logan หัวหน้าภาควิชาควบคุมโรคของ LSHTM แสดงความคิดเห็นว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่าความคืบหน้าในการควบคุมโรคมาลาเรียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เรียกได้ว่าอับจนหนทาง ทำให้ต้องใช้วิธีการใหม่ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อช่วยในการต่อสู้กับโรคมาลาเรียเข้ามาช่วย
อย่างไรก็ตาม การประชุมประจำปีของสมาคมเวชศาสตร์เขตร้อนและสุขอนามัยในนิวออร์ลีนส์แห่งสหรัฐอเมริกาเผยผลการสำรวจเบื้องต้นที่ชี้ให้เห็นว่าสุนัขสามารถตรวจหาโรคในผู้ติดเชื้อได้ ซึ่งหมายความว่าสุนัขอาจเป็นเครื่องมือที่รวดเร็วและปลอดภัยในการตรวจหาเชื้อไข้มาลาเรีย โดยในอนาคตอาจนำสุนัขที่ได้รับการฝึกไปตรวจหาเชื้อมาลาเรียที่สนามบิน เหมือนการตรวจดักจับยาเสพติดและอาหารที่ผิดกฎหมาย นั่นทำให้สุนัขเหล่านี้สามารถคัดกรองและป้องกันไม่ให้โรคมาลาเรียเกิดการแพร่ระบาดระหว่างประเทศ ทั้งยังช่วยให้ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีด้วย
ในขณะที่แนวโน้มกลยุทธ์การคัดกรองนี้ไม่ได้ปราศจากความท้าทาย อาจต้องมีการติดต่อกันระหว่างสุนัขกับบุคคลซึ่งอาจจะน่ากลัวสำหรับบางคน อีกทางเลือกหนึ่งคือเสื้อผ้าที่ต้องถอดออกและสูดดมโดยสุนัขซึ่งยังไม่เหมาะ อย่างน้อยที่สุดผลการวิจัยล่าสุดนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าหมาอาจเป็นประโยชน์ในการดมกลิ่นมาลาเรียในการตั้งค่าบางอย่าง
แม้จะไม่สามารถการันตีการตรวจหาเชื้อได้ 100% แต่การวิจัยอาจมีคุณค่าในการเป็นแรงบันดาลใจให้กับการแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเลียนแบบศักยภาพการดมกลิ่นของสุนัขในอนาคตก็ได้นะคะ… ใครจะรู้
ที่มา: www.gizmodo.com