รู้กันดีค่ะว่านับวัน ภาวะโลกร้อน จะส่งผลต่อประชากรโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และเหยื่อรายล่าสุดที่น่าจะได้รับผลกระทบจาก ภาวะโลกร้อน ก็คือบรรดา ‘คอเบียร์’ นั่นเอง
ถือเป็นข่าวร้ายของนักดื่มเบียร์เลยนะคะ เมื่อมีการเผยผลการศึกษาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค. 61) ว่า ‘ความแล้ง’ และ ‘คลื่นความร้อน’ อันเป็นผลจากภาวะโลกร้อนนั้นจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตของวัตถุดิบสำคัญอย่าง ‘ข้าวบาร์เลย์’ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าราคาเบียร์จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในรอบหลายทศวรรษ
ผลการศึกษาครั้งนี้ทำให้คาดการณ์ได้ว่าทุกๆ 3 ปีในช่วงท้ายของศตวรรษนี้ คลื่นความร้อนและภัยแล้งจะสร้างความเสียหายให้กับการปลูกข้าวบาร์เลย์ ซึ่ง 17% ของผลผลิตทั่วโลกถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเบียร์ (อ้อ… การผลิตอาหารสัตว์ก็เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมสำคัญที่อาจได้รับผลกระทบนะ) ดังนั้น ในอนาคตเมื่อภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิในชั้นบรรยากาศสูงขึ้นประมาณ 5 องศาเซลเซียส จะทำให้อุปทานของข้าวบาร์เลย์ลดลงประมาณ 15 % ในช่วงปลายศตวรรษนี้ และน่าจะทำให้มีการบริโภคเบียร์ลดลง 16% เมื่อเทียบกับปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผลกระทบดังกล่าวน่าจะมีความรุนแรงสำหรับประเทศที่นำเข้าข้าวบาร์เลย์อย่างไอร์แลนด์ ที่อาจต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า ตามมาด้วยประเทศในยุโรปอื่น ๆ แคนาดา และญี่ปุ่น รวมถึงสร้างผลเสียต่อประเทศที่เป็นแหล่งผลิตสำคัญอย่างอเมริกากลาง อเมริกาใต้ และแอฟริกากลาง แต่อุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจส่งผลดีต่อประเทศอย่างจีนและสหรัฐอเมริกาเพราะการปลูกข้าวบาร์เลย์จะเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยเป็นมา ส่วนออสเตรเลียและญี่ปุ่นนั้นอาจไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากสามารถนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากประเทศในแถบเอเชียมาทดแทนได้
แม้จะเป็นเรื่องจริงที่แทงใจดำอยู่สักหน่อย แต่ก็อยากให้ ‘คอเบียร์’ ทุกคนเตรียมพร้อมรับมือกันด้วยนะจ๊ะ อ้อ… หรือจะเพลาๆ การดื่มรอไว้ตั้งแต่วันนี้เลยก็ดีนะ ตอนราคาเบียร์สูงขึ้นจะได้ไม่ช้ำใจมากจ้า
ที่มา: www.buzzfeednews.com