ความคืบหน้ากรณีลอตเตอรี่รางวัลที่ 1ที่คุณยายวัย71ปี ชาวอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ทำหายไป จากนั้นก็พบว่า มีคนเจอลอตเตอรี่ แล้วนำไปขึ้นเงินเรียบร้อย ซึ่งก็เป็นเครือญาติของคุณยายท่านนี้ โดยคุณยายเชื่อว่า ญาติรายนี้ เป็นคนเจอลอตเตอรี่ใบดังกล่าว แต่หญิงสาวก็ยังปฏิเสธ ล่าสุด คุณยายและพยานรวมไปถึงคนขายล๊อตตารี่ ก็เข้าสู่กระบวนการตรวจดีเอ็นเอแล้ว ส่วนหญิงสาวคู่กรณี ก็ยังไม่มาให้ปากคำตามหมายเรียก
นางประดับ จันทร์อ่วม อายุ 71 ปี และญาติ ๆ พร้อมด้วยพ่อค้าลอตเตอรี่ จากอำเภอสามชุก เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนชุดใหม่ ที่สถานีตำรวจภูธรสามชุก เพื่อเร่งสอบสวนกรณีทำลอตเตอรี่หาย ซึ่งต่อมาพบว่าลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว เป็นลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีคนข้างบ้านนำไปขึ้นรางวัล โดยในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวคุณยายประดับ นายสกล เศรษฐไพบูลย์ คนขายลอตเตอรี่ และพยานที่ไปซื้อลอตเตอรี่กับคุณยายไปตรวจดีเอ็นเอที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุพรรณบุรี จากนั้น ก็นำกลับมาสอบปากคำต่อ อย่างไรก็ตาม นางประดับ ไม่ขอแสดงความเห็นใด ๆ ในเรื่องนี้ และไม่รู้สึกวิตกกังวลแต่อย่างใด ทั้งนี้ทนายความของนายประดับ เตรียมยืนหนังสือเพื่อขอให้เร่งรัดการสืบสวนคดีนี้ให้รวดเร็วอีกด้วย
ด้านพันตำรวจเอกเกษม ช้างเผือก ผู้กำกับสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 ช่วยราชการกลุ่มงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานกองสลากเพื่อขอนำลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว ส่งกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อตรวจ DNA ที่ติดอยู่ และหารอยนิ้วมือแผงที่ติดอยู่ในใบลอตเตอรี่ ซึ่งเมื่อรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว หากมีความน่าเชื่อว่า คดีมีความเชื่อมโยงกัน ก็จะออกหมายเรียก น.ส.พรทิพย์ ปาลวงศ์ มาสอบปากคำ ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาฐานยักยอกทรัพย์ หรือลักทรัพย์ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่าจะเข้าไปถึงข่ายความผิดไหน ซึ่งคดีนี้ไม่มีความซับซ้อนและไม่ใช่มีการทำกันเป็นขบวนการแต่อย่างใด ต้องขอสรุปพยานหลักฐานทั้งหมดก่อนก็จะทราบเรื่องทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า น.ส.พรทิพย์ ให้การกับตำรวจว่า ซื้อลอตเตอรี่ มาหลายใบ ทั้งจากกรุงเทพฯ และในพื้นที่อำเภอสามชุก ส่วนใบที่ถูกรางวัลที่ 1 นั้น จำไม่ได้ว่าซื้อมาจากที่ไหน