เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ผู้ที่เดินเที่ยวอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านราชประสงค์ต้องอลหม่านวุ่นวาย เมื่อพ่อครัวร้านอาหารกำลังทำอาหารอย่างมันมือ จนเกิดประกายไฟติดบนเพดาน ทำให้ไฟลามลุกไหม้อย่ารวดเร็ว โชคดีพนักงานของห้างรีบดับไฟไว้ได้ทัน คาด เกิดจากความประมาทหรือเหตุสุดวิสัย
เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในร้านอาหาร ฮั่วเซ่งฮง ชั้น 6 โซนฝั่งเซน ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารจีน ต้นเพลิงอยู่ภายในห้องครัวบริเวณจุดประกอบอาหารหลังร้าน เจ้าหน้าที่พบฝ้าเพดานได้รับความเสียหาย เบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุเพลิงลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ของห้างได้ใช้สารเคมีดับทันที โดยใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาที สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยทางห้างได้ปิดโซนฝั่งเซนทั้งหมด พร้อมกับอพยพประชาชนออกมา เพื่อระบายควันและตรวจสอบความเสียหาย โดยกันบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าจุดเกิดเหตุโดยเด็ดขาด
https://youtu.be/rYo-6f3Z3NM
ต่อมาพนักงานของห้าง ได้นำแผ่นกระดานมาปิดบังบริเวณด้านหน้าร้าน เพื่อกั้นให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป และทางห้างได้เปิดให้บริการตามปกติ แต่ยังคงกั้นพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเอาไว้ก่อน
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ กุ๊กของร้านอาหาร ได้ทำการผัดวุ้นเส้นผัดไข่ จนเกิดไฟลุกโชนไปติดปล่องระบายควัน ซึ่งเพลิงยังได้ลุกลามไปติดฝ้าเพดานอย่างรวดเร็ว กุ๊กที่ปรุงอาหารจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของห้างฯ ทันที เพื่อให้เข้ามาดับไฟ โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็สามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะประสานทางกองพิสูจน์หลักฐาน ให้เข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง โดยยังไม่สรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ดังกล่าว เนื่องจากต้องรอสอบปากคำพยานทั้งหมด เพื่อประเมินความเสียหายต่อไป
ด้าน พลตำรวจศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่เดินทางมาดูที่เกิดเหตุด้วย บอกว่า ร้านพึ่งเปิดทำการได้ไม่นาน และมีประชาชนเข้ามาใช้บริการอยู่ 5 โต๊ะ โดยพ่อครัวได้ทำการผัดอาหาร แต่เปิดไฟแรงทำให้ประกายไฟไปติดปล่องระบายควัน ปกติร้านจะทำความสะอาดเดือนละ1ครั้ง ซึ่งไฟอาจไปโดนบางจุดของปล่อง ซึ่งทำความสะอาดไม่ทั่วถึงทำให้มีคราบน้ำมันจนกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เมื่อไฟลุกไหม้ พนักงานร้านได้อพยพคนที่ใช้บริการออกไปก่อน เชื่อว่าสาเหตุนี้มี 2 กรณี คือเกิดจากการประมาทกับอุบัติเหตุ เพราะคงไม่มีใครเจตนาวางเพลิง แต่หากพบว่าเป็นการกระทำของบุคคล ก็จะมีการสอบสวนต่อไป