เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 15 เม.ย.61 ร.ต.อ.สัมภาษณ์ ผลถาวร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวนรุดเข้าทำการตรวจสอบเหตุยิงกันที่บ้านเลขที่
58 หมู่ 1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ เหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยพบว่าที่ห้องเก็บข้องข้างบ้านดังกล่าวพบเพียงรอยเลือดกองอยู่ นอกจากนั้นยังพบอุปกรณ์เสพยาเสพติด 1 ชุด ปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อนายเอกพล สวนจันทร์ หรือ “บองหลา” อาย 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 7 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม.เข้าที่ชายโครงขวาทะลุหลังจำนวน 1 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่ได้นำส่ง รพ.ทุ่งใหญ่ เพื่อช่วยชีวิต ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่ รพ.ทุ่งสง เพราะเครื่องมือการแพทย์ทันสมัยกว่า โดยนายเอกพลฯ ต้องไดรับการดูแลอาการจากแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิด
จากการสอบสวนทราบว่า มือปืนที่ยิงนายเอกพลฯ คือนายเศียร ชูนาค อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/3 หมู่ 1 ต.กุแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นพี่แม่ยายของนายเอกพลฯ ผู้บาดเจ็บ หรือผู้บาดเจ็บนั้นเป็นหลานเขยของมือปืน ซึ่งนายเศียร นั้นเป็นมือปืนก่อคดีฆ่าคนตายมาแล้วหลายสิบศพ จนได้รับฉายาว่า “เสือเล็ก” ได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุแล้ว โดยตำรวจได้ส่งกำลังออกไล่ล่านายเศียร มือปืน สกัดตามเส้นทางต่างๆ แต่ไร้ร่องรอย
จากการสอบสวนก่อนเกิดเหตุนายเอกพล ผู้บาดเจ็บได้ชักชวนเพื่อน 2 คน พากันไปเสพยาเสพติดที่บ้านเกิดเหตุ ทางแม่ยาย ของนายเอกพล ซึ่งเป็นน้องสาวของนายเศียร ได้ไปบอกเพื่อให้ไปว่า กล่าวตักเตือน และขอร้องให้นายเอกพล เลิกเสพยาเสพติด แต่ปรากฏว่าเมื่อไปถึงพบว่านายเอกพล กำลังเสพยากับเพื่อนอย่างเมามัน พูดจาว่ากล่าวเตือนก็ไม่ยอมรับฟัง ยังคงนั่งเสพยาอย่างสบายใจโดยไม่สนใจทั้งแม่ยาย และลุงของภรรยา
เมื่อพูดจาตักเตือนไม่เป็นผล นายเศียร เกิดความไม่พอใจนายเอกพล หลานเขยเป็นอย่างมาก จึงได้ชักอาวุธปืนขนาด 11 มม.ออกมายิงใส่จำนวน 2 นัดซ้อน แต่กระสุนโดนนายเอกพล เข้าที่ชายโครงด้านเพียง 1 นัด ในขณะที่นายเอกพล ยังคงมีสติได้วิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตไปซ่อนตัวอยู่ในป่าละเมาะหลังบ้าน และหลังจากนายเศียร หนีไป นายเอกพล ก็ออกมาจากป่าละเมาะมาขอความช่วยเหลือให้ชาวบ้านนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
ส่วนสาเหตุมาจากนายเอกพลฯ ผู้บาดเจ็บนั้นเอาแต่ติดยาเสพติด ชอบพาเพื่อนมามั่วสุมเสพยากันที่บ้านเกิดเหตุเป็นประจำ ทางแม่ยายพยายามขอร้องให้หยุดแต่นายเอกพลฯ ไม่เชื่อฟัง จึงได้ขอให้นายเศียรฯ ซึ่งเป็นลุงมาว่ากล่าวตักเตือนเพราะคิดว่านายเอกพล อาจจะเชื่อฟังบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผลทำให้นายเศียร โมโหชักปืนยิงใส่จนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตำรวจจะสืบสวนสอบสวนติดตามตัวนายเศียร มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป