วานนี้ (18 ส.ค.) นายกรัฐมนตรี ลีเซียนลุง ประเทศ สิงคโปร์ กล่าวในวันแถลงนโยบายแห่งชาติ ว่า ประเทศสิงคโปร์กำลังจะเผชิญวิกฤษสังคมผู้สูงวัยที่มากเกินไป จากการสำรวจพบประชากรอายุเกิน 100 ปีถึง 1,300 คน และมีเปอร์เซ็นเด็กเกิดใหม่น้อยสุดในรอบ 8 ปี จึงต้องเร่งแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มอายุเกษียณจาก 62 ปี เป็น 65 ปี ทั้งนี้นายจ้างสามารถจ้างหนักงานเดิมต่อไปหลังเกษียณอายุครั้งสุดท้ายที่วัย 70 ปี จากเดิม 67 ปี
โดยรัฐบาลจะเพิ่มเงินสมทบกองทุนบำเหน็จบำนาญ สำหรับคนทำงานในประเทศ กล่าวคือ ภายในช่วงปี ค.ศ. 2030 คนทำงานอายุ 60 ปี หรือต่ำกว่า 60 ปี จะได้รับเงินชดเชยเต็มจำนวน และรัฐบาลยังมีมาตรการช่วยภาคธุรกิจรับมือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น จากการปรับเงินสมทบให้สอดคล้องกันการเกษียณอายุ นากจากนั้น มาตรการสนับสนุนของรัฐบาลที่ระบุว่า จะมีการจับงบประมาณ 4,400 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับกองทุนดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป