“อลงกรณ์” เตือนได้ “นายกฯ คนนอก” วิกฤติแน่ หวั่นปลุกพฤษภาทมิฬรอบสอง เชื่อ ปชป.กวาด 150 เสียง หยาม “พลังประชารัฐ” ได้ 120 เก้าอี้ก็เก่งแล้ว อัดรัฐบาลเอื้อกลุ่มทุนผูกขาด แก้เศรษฐกิจรากหญ้าไม่สำเร็จ
นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวในรายการ “ทุบประเด็น” ทางสถานีโทรทัศน์ไบรท์ทีวีช่อง 20 ว่า อยากให้ปชป.เป็นสถาบันทางการเมืองอย่างแท้จริง เมื่อมีการให้ไพรมารีโหวตจึงได้ตัดสินใจลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยให้สมาชิกได้เลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง ภายหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคมา 13 ปีแล้ว แต่มีการแพ้เลือกตั้งมาโดยตลอด จึงต้องการเปลี่ยนแปลงยกเครื่องพรรค ปชป. ให้ชัดเจนมากขึ้น พร้อมการปฏิรูปพรรคด้วย ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นอย่างไรอยู่ที่ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ขณะที่นโยบายสร้างคนสร้างชาติ เพราะต้องการสร้างคน จึงแสดงจุดยืนของ ปชป. หากจะเป็นรัฐบาลต้องเริ่มจากการสร้างคน โดยเรื่อง 1 เเสนบาทนั้น เมื่อแรกเกิดให้ 5 พันบาท จากนั้นได้ 1 พันบาทจนถึงอายุถึง 8 ปี แต่คงไม่สามารถช่วยได้ทั้งหมด โดยพรรค ปชป. จะทำเท่าที่ทำได้ก่อนในภาวะงบการคลังแบบนี้
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันตนผลักดันการปฏิรูปประเทศ ในการทำงานที่สภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ(สปท.) ตลอด 3 ปีที่ทำหน้าที่ไม่เคยไปพบนายกฯ และผู้นำทางการทหารแม้แต่วันเดียว เพราะไม่ต้องการหวังอนาคตทางการเมือง ถ้าไปหวังผลประโยชน์ต้องไปพบไปขอหรือไปหาแล้ว ดังนั้น เมื่อพ้นวาระเรียบร้อยอยู่ที่กรรมการปฏิรูปประเทศต่อไป ส่วนการปฏิรูปที่เห็นนั้น รัฐบาลสามารถตั้งศาลปราบโกงได้ และพิจารณาคดีไปกว่าพันคดี หรือกฎหมายลดความเหลือมล้ำที่ออกมา แต่กลับไม่พูดถึงกันเลย แต่ขณะเดียวกันยังมีปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้า เพราะไม่สามารถแก้ความเหลื่อมล้ำ จากที่ไปเอื้อต่อทุนใหญ่ได้ ถึงแม้จะมีกฎหมายป้องกันการผูกขาดฉบับใหม่ แต่รัฐบาลกลับแต่งตั้งตัวแทนทุนใหม่มากกว่าชุดที่ผ่านมา เพราะทุนใหญ่ต้องการมีอำนาจเหนือกฎหมายและเหนือคู่แข่งการให้ทุนจึงเกิดขี้น แต่ถ้าเป็น ปชป. ยุคใหม่จะจัดการเรื่องการผูกขาด ไม่เอาแล้วทุนสามานย์
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ถ้า ส.ส.มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งสามารถเลือกนายกฯ ได้ แต่ถ้าเลือกไม่ได้จะมี ส.ว. 250 คนมาพิจารณา ส่วน ปชป. ได้ประกาศเป็นทางเลือกหลักของประเทศ เชื่อว่าประชาชนจะให้การสนับสนุน และจะได้ ส.ส.ไม่น้อยกว่า 120-150 คน โดยพรรคใดที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ จะต้องได้สิทธิจัดตั้งรัฐบาล ส่วน ปชป.จะไปร่วมกับเพื่อไทยหรือไม่ ต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตอบ แต่การเจราจากับพรรคอื่นนั้น ต้องดูนโยบายว่ารับกันได้หรือไม่ ขณะที่ประเทศไทยหลังการเลือกตั้งอยู่ที่การเลือกนายกฯ ในรอบแรก แต่ถ้าไปก๊อกสองมีนายกฯ คนนอกจะเกิดวิกฤติ อาจจะเกิดพฤษภาทมิฬรอบสองได้ ดังนั้น ปชป. ยืนยันไม่เอานายกฯ คนนอก จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มาอยู่ในบัญชีนายกฯ พรรคพลังประชารัฐก็ได้
“ปชป. ยืนยันไม่เอานายกฯ คนนอก จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มาอยู่ในบัญชีนายกฯ พรรคพลังประชารัฐก็ได้”
“ส่วนคุณทักษิณเว้นการเมืองไปนาน อ่านเลือกตั้งไม่ขาด อ่านรัฐธรรมนูญไม่ถูก ทำให้ไม่เข้าใจว่าบัตรเลือกต้ังใบเดียวเลือกคนและพรรค ดังนั้น 350 เขตไม่มีใครยอมใครแน่ เป็นความพลาดทางยุทธศาสตร์ โดยเชื่อว่าในกลุ่มนี้จะไม่เกิน 150 เสียง ถึงแม้จะหวังว่าชนะเขตมากแต่จะได้บัญชีรายชื่อไม่มาก ก็ไม่ได้ลงตัวแบบนี้เสมอไป เพราะอย่างน้อย 2 พรรคหลักจะสูสีกัน ส่วนพลังประชารัฐประเมินยาก ถึงเป็นพรรคใหม่ แต่คนในเป็นคนเก่า แต่มองว่า 120 เสียงก็เก่งแล้ว”นายอลงกรณ์ กล่าว