หลังจากที่เสี่ยเปรมชัย กรรณสูตร ตกเป็นผู้ต้องหาคดีลอบยิงสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี ล่าสุด ยิ่งขุดยิ่งเจอ เมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลใหม่ออกมาว่า เสี่ยเปรมชัย มีบ้านอยู่ในพื้นที่คาบเกี่ยวกับเขตป่าสงวน ในจังหวัดเลย จากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า บ้านหลังดังกล่าวกินพื้นที่ภูเขาทั้งลูก เจ้าหน้าที่เตรียมเข้าตรวจสอบเร็วๆนี้
มีรายงานจากแหล่วงข่าวที่เชื่อถือได้ว่า ที่ดินของนายเปรมชัยในพื้นที่ อ.ภูเรือ อยู่ใกล้กับรีสอร์ทชื่อดังแห่งหนึ่ง มีฝายเก็บน้ำถูกตั้งชื่อว่าฝายเปรมชัย อยู่ไม่ห่างจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งหากนายเปรมชัยไปพักผ่อน ก็มีจะ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในพื้นที่พาเข้าไปล่าสัตว์ในบริเวณใกล้เคียงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง ซึ่งมักมีสัตว์จำพวกหมูป่าออกมาหากินตามชายป่า นอกจากนายเปรมชัยยังชอบซื้อไก่มาปล่อยและล่าด้วย
ทีมข่าวจึงตรวจสอบพบว่า นายเปรมชัยมีชื่อเป็นผู้ครอบครองรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ชื่อว่ารังเย็นรีสอร์ท ภูเรือวโนทยาน และชาโต้เดอเลย รวมไปถึงการครอบครองที่ดินร่วม 10,000 ไร่ ในเขตป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ รอยต่อ2 อำเภอ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย แบ่งเป็นการครอบครองที่ดินรังเย็นรีสอร์ท ภูเรือวโนทยา อ.ด่านซ้าย และ อ.ภูเรือ พื้นที่ประมาณ 6,000-7,000 ไร่ และชาโต้เดอเลย ต.ร่องจิก อ.ภูเรือ กว่า 1,000 ไร่ รวมเป็นร่วม 10,000 ไร่
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปรังเย็นรีสอร์ท พบว่าที่หน้าประตูทางเข้ารังเย็นรีสอร์ท มีเจ้าหน้าที่ ดูแลอยู่ 1 คน เมื่อขับรถผ่านเข้าในพื้นที่รีสอร์พบว่ามีพื้นที่ใหญ่โตมโหฬารร่วม 10,000 ไร่ มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และบ้านพักรีสอร์ทตั้งตระหง่านอยู่เนินเขาคุ้งน้ำ มีอาคารปูนห้องพักรีสอร์ 2 อาคารขนาดใหญ่ ห้องพัก 66 ห้อง และสำนักงานอีกร่วม 10 หลัง สอบถามเจ้าหน้าที่รีสอร์ท ไม่ทราบว่าเป็นของใครและไม่ขอให้รายละเอียดแต่อย่างไร
จากการตรวจสอบเอกสารจดทะเบียนพิณิชย์จังหวัดเลย พบว่า นายเปรมชัย กรรณสูตร มีรายชื่อ 1 ใน 5 เป็นคณะกรรมของบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จังหวัดเลย เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2525 มี 1.นายชัยยุทธ กรรสูตร 2.นางพิไลจิตร เริงพิทยา 3.นางนิจพร จรณะจิตรต์ 4.นายเปรมชัย กรรณศูตร และ 5. นางอรเอม เทิดประวัติ เงินจดทะเบียน 500,000,000.00 บาท (ห้าร้อยล้านบาท) มีสำนักงาน 4 สำนักงาน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร อ.ภูเรือ จ.เลย อ.ด่านซ้าย จ.เลย และ อ.เมือง จ.เลย
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีมีการครอบครองที่ดินในป่าสงวนป่าสงวนภูเรือ ภูขี้เถ้า และป่าภูเรือ รอยต่อ2 อำเภอ อ.ภูเรือ และ อ.ด่านซ้าย จ.เลย จนมีคำสั่งจากอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 1115/2545 ให้เพิกถอนที่ดินจำนวน 51 แปลง กว่า 3,000 ไร่ โดยเห็นว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดนนำ ส.ค.1 ของที่ดินผู้อื่นมาเป็นหลักบานในการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ขัดต่อมาตรา 59 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ประกอบกับที่ดินที่ออก น.ส.3 ก เป็นที่ภูเขา จนมีคำสั่งเพิกถอนที่ดินดังกล่าวจำนวน 51 แปลง กว่า 3,000 ไร่