ผู้สื่อข่าวไบรท์ นิวส์ ได้ไปพูดคุยกับพยาน ที่เบิกความว่า ครูจอมทรัพย์ไม่ได้ขับรถชน คือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา ที่จังหวัดนครพนม และนายสุริยา นวนเจริญ ที่จังหวัดมุกดาหาร ทั้ง3ราย ยืนยัน ว่า เป็นพยานด้วยความบริสุทธิ์ ไม่เคยได้รับการว่าจ้าง ช่วยเหลือเพราะสงสาร ที่สำคัญไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกับครูจอมทรัพย์ และไม่มีความจำเป็นที่จะมารับจ้างหรือหาประโยชน์ ส่วนจะมีขบวนการรับจ้างหรือ การรับผิดแทน ทั้ง 3 คน ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีครูจอมทรัพย์ หรือนางจอมทรัพย์ อดีตข้าราชการครู ที่ออกมาเรียกร้องให้รื้อฟื้นคดี หลังถูกตัดสินจำคุก กรณีขับรถชนคนตาย เมื่อปี 2548 อ.เรณูนคร จ.นครพนม และต่อสู้มาถึง 3 ศาล ถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน จนกระทั่งพ้นโทษ ได้ร้องทุกข์ กระทรวงยุติธรรมให้การช่วยเหลือ รื้อฟื้นคดี อ้างว่าเป็นแพะ และสุดท้ายเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครพนม อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ยกคำร้องรื้อคดี ยืนคำตัดสินตามศาลชั้นต้นและศาลฎีกาเดิม
ล่าสุด กลายเป็นคดีน่าสนใจของสังคม โดย พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ได้สั่งให้คณะทำงาน แจ้งความดำเนินคดีเอาผิด กลับกลุ่มพยานของ ครูจอมทรัพย์ ที่เคยไปเบิกความต่อศาลในการไต่สวนพิจารณารื้อคดี เนื่องจากเข้าข่ายความผิดแจ้งความเท็จ เบื้องต้นได้ทำการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 2 ราย มี นายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง เพื่อนสนิทครูจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นคนสำคัญที่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่า เป็นคนจัดตั้งขบวนการรับจ้างรับผิดแทน รวมถึง นายสับ วาปี ที่เคยออกมายืนยัน ว่าเป็นคนขับรถตัวจริง เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่พยาน3ปากที่เคยเบิกความ คือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา และนายสุริยา นวนเจริญ ยืนยัน ว่า เป็นพยานด้วยความบริสุทธิ์ ไม่เคยได้รับการว่าจ้าง ช่วยเหลือเพราะสงสาร เพราะเห็นคนขับเป็นชาย ที่สำคัญไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกับครูจอมทรัพย์ และไม่มีความจำเป็นที่จะมารับจ้างหรือหาประโยชน์ ส่วนจะมีขบวนการรับจ้างหรือ การรับผิดแทน ไม่ทราบได้