แก๊งลักทรัพย์ในบ้านเจอแจ็กพอต เจ้าของโน้ตบุ๊กเชื่อมสัญญาณกับโทรศัพท์มือถือ รู้ความเคลื่อนไหวแจ้งตำรวจรวบตัวได้ยกแก๊ง พร้อมของกลางจำนวนมาก
วันนี้ (17 พ.ค. 61) เวลา 11.30 น. ที่บริเวณหน้ากองบังคับการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.อ.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสิทธิโชค หรือเล่ ทิมดอน อายุ 23 ปี ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหาลักทรัพย์ และนายนราธิป หรือเม่น ปุ๋ยกระโทก อายุ 26 ปี ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ผู้ต้องหารับของโจร พร้อมด้วยของกลางจำนวนมาก อาทิ อาวุธปืน, ทีวีสีจอแบน, โน้ตบุ๊ก, เครื่องตัดหญ้า, สว่านไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, เครื่องเล่นเกม, พระเครื่อง, สร้อยคอทองคำปลอม และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ
พล.ต.ต.วัชรินทร์ บุญคง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ภายหลังจากเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุลักทรัพย์เกิดขึ้นในบ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 8 ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยคนร้ายได้ลักเอาโน๊ตบุ๊คพร้อมด้วยพระเครื่องไป ต่อมาผู้เสียหายได้แจ้งว่ามีคนเข้าใช้โน้ตบุ๊กเครื่องที่หายไป ซึ่งตนเองได้เชื่อมโยงข้อมูลไว้กับโทรศัพท์มือถือ ทราบว่าผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “นราธิป ปุ๋ยกระโทก” และมีข้อความการสนทนากับ “เล่ แล้วใง” ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายสิทธิโชค หรือเล่ ทิมดอน มีข้อความรูปภาพจากนายเล่ส่งให้นราธิป เป็นภาพพระเครื่อง ซึ่งผู้เสียหายจำได้ว่าเป็นของตนเองที่หายไป
ชุดสืบสวนจึงได้ดำเนินการสืบสวนจนทราบว่านายนราธิป ได้โพสต์ขายเครื่องเล่นเกม ในกลุ่มเฟซบุ๊กด้วย จึงได้ทำการติดต่อขอซื้อ เมื่อพบนายนราธิป นำเครื่องเล่นเกมดังกล่าวมาขายให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและสอบถามถึงโน้ตบุ๊กเครื่องที่นายนราธิป ใช้ล็อกอินเฟซบุ๊ก นายนราธิป ยอมรับว่าใช้โน้ตบุ๊กเครื่องดังกล่าวจริง ตนเองซื้อมาจากสิทธิโชค หรือเล่ แต่ได้ขายให้ผู้อื่นไปแล้ว พร้อมสมัครใจนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึด จากการสอบถามนายนราธิป แจ้งว่านายสิทธิโชค หรือเล่ มักจะมีพระเครื่องและโน้ตบุ๊กมาขายให้ตนเองในราคาถูกเสมอ ชุดสืบสวนจึงให้นายนราธิป โทรติดต่อนายเล่ นัดหมายให้นำพระเครื่องมาขายให้ โดยนัดหมายกันที่หน้าสถานีดับเพลิงจอหอ ริมถนนสุรนารายณ์ เมื่อนายเล่มาถึง ชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวให้ทราบ
ตรวจค้นตัวพบอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนและเครื่องจำนวนหลายองค์อยู่ในกระเป๋าสะพายหลัง สอบถามรับว่านำพระเครื่องมาส่งให้นายนราธิปจริง และนำอาวุธปืนมาเพื่อป้องกันตัว ทั้งหมดเป็นทรัพย์สินที่ตนเองลักทรัพย์มา และยังมีทรัพย์สินอยู่ที่บ้านพักตนเองอีกหลายรายการ จึงสมัครใจนำพาตำรวจไปตรวจยึดมาได้จำนวนมาก
โดยนายสิทธิโชค รับว่า ตัวเขาเองไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆ ไม่มีเป้าหมาย หากพบบ้านที่อยู่ติดถนนไม่มีคนอยู่ จะเข้าไปทำการงัดหน้าต่างหลังบ้านเข้าไป โดยถือเคล็ดว่า “1.เข้าบ้านไหนต้องมีของติดมือออกมาทุกครั้ง 2.จะไม่เข้าไปลักทรัพย์บ้านจัดสรร และ 3.จะไม่ลักทรัพย์ตอนกลางคืน” ซึ่งเมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วจะขายนำเงินมากิน เที่ยวเตร่จนเงินหมด หลังจากนั้นจะออกหาลักทรัพย์ใหม่อีก โดยเคยตระเวนลักทรัพย์มาแล้วในพื้นที่ 6 อำเภอ ประกอบไปด้วย อ.เมือง อ.โชคชัย อ.ปักธงชัย อ.วังน้ำเขียว อ.ครบุรี และ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา.