ครอบครัวทำใจไม่ได้ โพสต์ข้อความอาลัย “น้องแอ๋ม” 24 ปี 9 เดือน ช่างสั้นเหลือเกิน
จากกรณี น.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ “น้องแอ๋ม” อายุ 25 ปี นศ.สาวปริญญาโทรัฐบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกฆ่าตายพร้อมเพื่อนสนิท เสียชีวิตภายในอพาร์ตเมนต์ที่รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของ นายปภาวิน หลีนวรัตน์ หรือ”เฮียย้ง” อดีต รองนายกเทศมนตรี ทต.ธัญบุรี และเป็นหลานของนายกฤษฎา หลีเนาวัรตน์ นายกเทศมนตรี ทต.ธัญบุรี และเป็นน้องสาวของนายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ สจ.ปทุมธานี
ล่าสุด เฟชบุ๊ค Weerasak Leenavarat หรือ นายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ สจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของนางสาวกรกมล หรือ น้องแอ๋ม หลีนวรัตน์ ซึ่งโพสต์ข้อความเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา โพสต์รูปภาพและข้อความว่า “สำหรับน้องแอ๋ม…ในความรู้สึกของพี่ เมื่อยามเป็นเด็ก หนูเป็นเทพธิดาองค์น้อยๆของพ่อ พอโตขึ้นมาก็เป็นนางฟ้าของครอบครัว เป็นคนจิตใจดี ร่าเริงแจ่มใส ฉลาด เก่ง มีความกล้า และเชื่อมั่นในตัวเองสูง อยากเรียนกฏหมายที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ทำได้ น้องกับพ่อ วางแผนกันไว้ว่า หนูเรียนจบแล้วจะขอไปเรียนเนติบัณฑิตไทยก็จบภายใน 1 ปี แล้วขอไปเรียนต่อปริญญาโทกฏหมายยังต่างประเทศ ก็สำเร็จมา 1 ใบ เดินทางต่อไปเพื่อเรียนต่ออีกใบ อีกเพียงแค่ 7เดือน จะกลับมาสอบเป็นผู้พิพากษาสนามจิ๋ว… แต่สุดท้ายความตายที่พวกเราไม่เคยคาดคิดก็มาพรากหนูไปจากพวกเรา ทุกคนเสียใจ และเป็นทุกข์มาก ตลอดระยะเวลาที่หนูอยู่บนโลกนี้ 24 ปี 9 เดือน ช่างสั้นเหลือเกิน แต่คงถึงเวลาที่นางฟ้าต้องกลับสวรรค์ ไปเถอะนางฟ้าของพวกเรา” #แก้วตาดวงใจของครอบครัว…น้องแอ๋ม และมีอีกโพสต์เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ครอบครัว น้องแอ๋มได้เดินทางไปส่งที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยทางพี่ชายโพสต์รูปภาพและข้อความว่า อีก 8 เดือน ก็ได้ปริญญาอีกใบ…สู้ๆๆๆ
โดยผู้สื่อข่าวได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับนายวีระศักดิ์ หลีนวรัตน์ พี่ชาย กล่าวเปิดเผยว่า ทราบว่าน้องสาวเสียชีวิตพร้อมกับรูมเมท แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งระหว่างนี้อยู่ระหว่างให้ญาติๆ ที่อาศัยอยู่ในอเมริกา เดินทางไปตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลถึงกับรายละเอียดที่เกิดขึ้นเพราะยังไม่ทราบรายละเอียดที่แน่ชัดจริงๆ ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ที่อเมริกาฯตรววจสอบและสอบสวนให้ชัดเจนก่อน ส่วนน้องสาวเป็นลูกคนเล็ก ซึ่งเพิ่งไปส่งไปเรียนต่อเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมานี้เอง แต่ก็มาเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งทางพ่อและครอบครัวเสียใจมาก เตรียมวางแผนจะนำศพกลับประเทศไทย แต่ตอนนี้ทางครอบครัวต้องคอยดูแลและปลอบใจกัน เพราะพ่อเสียใจมาก