เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ 2 โจรอำมหิตถีบรถจักรยานยนต์ของแม่เฒ่าวัย 65 ปี ล้มก่อนลงไปใช้มีดกระหน่ำแทงจนตายชิงทรัพย์หลบหนีลอยนวล ด้านผู้กำกับสืบสวนชี้ คนร้ายมุ่งประเด็นสังหารที่ ฆ่าชิงทรัพย์ แค้นส่วนตัว และฆ่าล้างหนี้
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์โจรอำมหิตซึ่งเป็นเป็นชาย 2 คน ขี่จักรยานยนต์ตามประกบใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ หมายเลขทะเบียน 1 กก 6910 ขอนแก่น ของ นางประยูร ทองโม้ อายุ 65 ปี ภรรยาอดีตตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งทำธุรกิจปล่อยเงินกู้และท้าวแชร์ เสียหลักล้มลง จากนั้นคนนั่งซ้อนท้ายเดินลงมาใช้มีดปลายแหลมแทง นางประยูร จากนั้นดึงเอากระเป๋าเงินพร้อมกับกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จนขาดหลุดจากคอตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ แล้วหลบหนีไป ซึ่งหลังเกิดเหตุ นางประยูร ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านช่วยกันแจ้งกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิต เมื่อช่วงเวลา 3 ทุ่มครึ่งของคืนวานนี้ บริเวณ ซอยนาทราย 5 บ้านหนองหิน ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี
ล่าสุดเมื่อช่วงสายวันนี้ (26 ธ.ค.60) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นถนนคอนกรีต มีบ้านเรือนอยู่หนาแน่น เบื้องต้นพบคราบเลือดอยู่บนพื้นถนน 2 จุด จุดแรกมีคราบเลือดจำนวนมากซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายถีบรถล้มแล้วแทง นางประยูร ห่างมาอีก 15 เมตร เป็นจุดที่ผู้ตายเดินมาขอความช่วยเหลือและล้มลง
นายอุทัย พรหมสุรินทร์ อายุ 36 ปี เจ้าของบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและออกมาช่วยผู้ตาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุหลังกลับมาจากทำธุระนอกบ้าน และเพิ่งลงจากรถยังไมได้เข้าบ้าน ได้ยินเสียงรถล้มจึงเดินไปส่องที่รั้ว ก็พบผู้ตายถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน คนขับรูปร่างอ้วน คนซ้อนท้ายรูปร่างผอม โดยคนซ้อนท้ายเดินลงมาใช้มีดแทงผู้ตาย ผู้ตายร้องขอชีวิตว่า “อย่าทำแม่ อย่าทำแม่” แต่คนร้ายยังกระหน่ำแทงผู้ตาย ตนได้ร้องสั่งให้คนร้ายหยุด ทำให้คนร้ายหยุดชะงักและตกใจ รีบดึงเอากระเป๋าและสร้อยคอทองคำ วิ่งขึ้นรถขับหลบหนีย้อนไปทางเดิม จึงรีบแจ้งกู้ชีพรีบนำส่งโรงพยาบาล
ด้าน ร.ต.ท.สมาน ทองโม้ ข้าราชการบำนาญ สามีของผู้ตาย ให้การว่า ผู้ตายเป็นแม่บ้านและปล่อยเงินกู้ให้พ่อค้า แม่ค้า และชาวบ้าน ช่วงเย็นทุกวันผู้ตายจะขี่รถจักรยานยนต์ไปเก็บเงินดอกกับลูกค้า พร้อมกับซื้ออาหารเย็นกลับมาบ้านทุกวัน ก่อนเกิดเหตุ เย็นวันนี้ก็เช่นเดียวกัน ตนรอผู้ตายกลับมากินข้าวเย็นก็ไม่เห็นผู้ตายกลับมาบ้าน และทราบว่าภรรยาถูกคนร้ายใช้มีดแทงชิงทรัพย์ เหตุเกิดห่างจากบ้านไม่ไกล ซึ่งผู้ตายได้ร้องขอความช่วยเหลือ ชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุวิ่งออกมาดู เห็นคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี จึงนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิต ซึ่งไม่รู้ว่าเงินในกระเป๋ามีกี่บาท
ส่วนนายคติ กองสุวรรณ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านชำ “ตาแดง” บ้านนาทราย เล่าว่า ผู้ตายจะมีแก๊งเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันประมาณ 7-8 คน หลังจากเก็บเงินดอกรายวันและเงินแชร์ ผู้ตายมักจะนัดมานั่งกินข้าวเย็นที่บ้านของตนประจำ ก่อนเกิดเหตุ ช่วงหัวค่ำผู้ตายได้เอาฝักมะรุมไปให้ประธานชุมชนแกง แต่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์มากินข้าวกินลาบหมูกับแก๊งเพื่อนประมาณ 3-4 คนที่บ้านของตน เสร็จแล้วผู้ตายได้ขอตัวกลับ ซึ่งเพื่อนๆ ไม่ได้ไปส่งเพราะยังเป็นช่วงหัวค่ำ ผู้ตายขี่ไปไม่นาน ประมาณ 1 กม. ก็ทราบว่าถูกฆ่าชิงทรัพย์ ยังรู้สึกตกใจและเสียใจไม่หาย
พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ตำรวจมุ่งประเด็นสังหารไว้ที่ ฆ่าชิงทรัพย์ ความแค้นส่วนตัว และฆ่าล้างหนี้ หลังเกิดเหตุ พบว่าเงินกว่า 1 หมื่นบาทยังอยู่ในกระเป๋ากางเกงผู้ตาย เลสข้อมือทองคำหนัก 1 บาท และแหวนทองคำ 1 วงยังอยู่ที่ข้อมือและนิ้วเหมือนเดิม ส่วนสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ถูกคนร้ายกระชากขาดตกที่พื้น กระเป๋าที่คนร้ายเอาไปไม่มีทรัพย์สิน ส่วนสาเหตุที่คนร้ายไม่ได้ทรัพย์ไปก็คงเพราะมีคนพบเห็นก่อนจึงรีบหลบหนีไป ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ เห็นพฤติกรรมคนร้ายแทงคนตายเหมือนประสงค์ต่อชีวิต ไม่เหมือนการชิงทรัพย์ที่คนร้ายมุ่งเอาทรัพย์สินแล้วหลบหนี ซึ่งได้ระดมกำลังตรวจหาภาพคนร้ายและรถจากล้อวงจรปิดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนี คิดว่าอีกไม่นานต้องจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้แน่นอน