วันนี้ (12 ต.ค.) ผู้บังคับการ ปปป. ได้ออกหมายเรียก นายนพรัตน์ อดีต ผอ.สำนักพุทธ ครั้งที่ 2 พร้อมเชิญ ผอ.สำนักพุทธฯ มาให้ข้อมูลเอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุจริตเงินทอนวัดล็อตที่ 3
พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา (ผอ.พศ.) เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน พร้อมนำเอกสารหลักฐาน มาตรวจสอบย้อนหลัง 10 ปี ตั้งแต่ปี 50 ขึ้นมา ถึงการจ่ายแบ่งเงินงบอุดหนุน, งบเผยแพร่ศาสนา และงบปริยัติธรรม เพราะที่ผ่านมาตรวจสอบแค่ 5 ปีหลังเท่านั้น และเชื่อว่าในล็อตที่ 3 จะเป็นกลุ่มผู้กระทำความผิดเดิม เพราะบางคนอาจจะมีความผิดมากกว่า 1 คดี ซึ่งการดำเนินการกับผู้กระทำผิดในล็อตที่ 3 จะให้สำนักงานพระพุทธศาสนา เป็นตัวหลักในการประสาน
ด้าน พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เปิดเผยว่า ส่วนเมื่อวานนี้ที่เข้าตรวจค้นบ้านภรรยา นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. และพบหลักฐาน เอกสารใบนัดแพทย์ของ นายนพรัตน์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า นายนพรัตน์ มีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย นอกจากนี้ ปปป. ได้ออกหมายเรียก ครั้งที่ 2 กับนายนพรัตน์ ที่ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เพื่อเข้ามารับทราบข้อหา ในฐานความผิด พ.ร.บ.การฟอกเงิน และหากไม่มาตามตามนัด 25 ต.ค.นี้ ก็จะดำเนินการออกหมายจับทันที รวมถึงภรรยา และลูกสาวของ นายนพรัตน์ ที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองบ้านหลังดังกล่าว ก็ถูกออกหมายเรียกให้เข้ามาสอบปากคำเช่นกัน
สำหรับการให้สำนักพุทธ เป็นเจ้าภาพดำเนินการตรวจสอบนั้น เชื่อว่าจะไม่มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดเข้ามายุ่งเหยิง หรือทำลายหลักฐาน เพราะมั่นใจในตัวของพันตำรวจโท พงศ์พร และอยากให้พิจารณากฎหมาย เพื่อสอดคล้องกับการทำงานให้รวดเร็วขึ้น เพราะผู้กระทำผิดอาจโยกย้ายเงินในบัญชี ทำให้ติดตามได้ค่อนข้างยาก อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางณัฐฐาวดี ตันตยาวิสารสุทธิ์ อดีตข้าราชการ พศ. เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาคดีฟอกเงิน ที่ ปปป. แล้ว เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ