ศาลฎีกา พิพากษายืนประหารชีวิต 2 ผู้ต้องหาในคดีฆ่าข่มขืน 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ชี้พยานหลักฐานแน่น
วันที่ 29 ส.ค. ศาลจังหวัดนนทบุรี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ยืนตามศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ให้ประหาร 2 แรงงานชาวพม่า คือ นายซอลิน จำเลยที่ 1 และนายเวพิว จำเลยที่ 2 ฐานข่มขืนฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2557 เวลาประมาณหลังเที่ยงคืน จำเลยทั้ง 2 มีเจตนาฆ่า นายเดวิดวิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี โดยการใช้ด้ามจอบตีจนถึงแก่ความตาย และน.ส.ฮานนาห์ วิคตอเรีย วิทเธอริดจ์ อายุ 24 ปี ถูกจำเลยทั้งสองข่มขืนกระทำชำเราและใช้จอบตีทำร้ายจนเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณโขดหินหาดทรายรี โดยเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2558 ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน ต่อมาวันที่ 1 มี.ค. 2560 ศาลจังหวัดเกาะสมุย อ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 โดยคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ภาค 8 ยืนตามศาลชั้นต้นให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง จนมีคำพิพากษาชั้นศาลฎีกาในวันนี้
ทั้งนี้ ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว เห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐาน รวมทั้งผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ตรงกับจำเลย และเป็นคดีเกี่ยวกับการกระทำต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวจำเลยทั้งสองตามคำสั่งศาล มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อความสะดวกในการเดินทาง โดยมีล่ามภาษาเมียนมาแปลคำพิพากษาให้ฟัง
ด้านนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้เป็นการอ่านคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดนนทบุรีที่มีการเผยแพร่ภาพและเสียงผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์ ที่สำนักงานศาลยุติธรรมได้จัดให้มีล่ามแปลภาษาพม่า บริเวณชั้น 6 อาคารศาลอาญากลับไปยังจำเลยที่ศาลจังหวัดนนทบุรีให้ได้รับทราบถึงผลคำพิพากษา ซึ่งการจัดหาล่ามถือมาตรการของทางสำนักงานศาลยุติธรรมที่ให้ความสำคัญในการคุ้มครองสิทธิของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่เป็นชาวต่างชาติ ถือเป็นการอำนวยความยุติธรรมในยุคก้าวสู่ศาลดิจิทัล หรือ D-Court
อ่านข่าว Bright Today