เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนแพง จ.สกลนคร ตะครุบตัวลุงใจโหดฆ่าหลานสาวแท้ ๆ ของตัวเอง อ้างมึนเมาและพยายามข่มขืนหลานสาวตัวเองแต่ไม่สำเร็จ จึงบีบคอตายแต่กลัวความผิดโยนร่างถ่วงทิ้งแม่น้ำสงครามอำพรางคดี
15 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านดอนแดง ม.5 ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการ จ.สกลนคร พร้อมด้วย พล.ต.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ เดินทางไปอำนวยการการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของ นายสมร ภักดี อายุ 42 ปี อยู่บ้านดอนแดง ม.5 ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ซึ่งเป็นผู้ลงมือฆ่า ด.ญ.บี (ปิยาการ เชืองกลาง) อายุ 6 ขวบ ชาว บ.ดอนแดง ม.5 ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ซึ่งเป็นหลานในไส้ของตนเอง เหตุเกิดที่ท้ายหมู่บ้านดอนแดงประมาณ 500 เมตรริมฝั่งแม่น้ำสงคราม โดยเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยคุ้มกันผู้ก่อเหตุ เพื่อป้องกันชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ จนกระทั่งทำแผนประกอบคำรับสารภาพเรียบร้อยด้วยดี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพนแพง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา (14 เม.ย.60) นางมณีนุช บุตรศรี อายุ 33 ปี มารดาของ ด.ญ.บี ออกตามหาลูกสาว หลังจากพาไปดูการแสดงหมอลำที่วัดดอนแดง เนื่องในงานเทศกาลสงกรานต์ โดย นางมณีนุช กลับก่อนและฝากลูกไว้กับ นายสมร ซึ่งเป็นลุงของ ด.ญ.บี เป็นผู้ดูแล ทว่าเช้าวันต่อมาลูกสาวของตนไม่กลับบ้านจึงไปสอบถามลุงก็แจ้งว่าตนได้พากลับไปส่งที่บ้านแล้ว หลังจากนั้นจึงทำการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยออกตามหาทั่วบริเวณหมู่บ้านและพบเสื้อผ้าวางอยู่ใกล้แม่น้ำสงครามแต่ไม่เห็นคนจึงนำกำลังดำลงไปในน้ำ ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงพบร่างเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายจมน้ำเสียชีวิตห่างจากฝั่ง 2 เมตร ในสภาพเปลือยเปล่า ก่อนนำร่างส่งไปชันสูตรที่ รพ.อากาศอำนวย ขณะผู้เป็นแม่ร่ำไห้แทบขาดใจหลังเห็นศพลูกสาว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพนแพง และกู้ภัย นำกำลังออกตามหาผู้กระทำผิด ซึ่งคาดว่าเป็น นายสมร เนื่องจากอยู่ด้วยกันเป็นคนสุดท้ายในคืนเกิดเหตุโดยตอนแรกเจ้าตัวให้การปฏิเสธ แต่เจ้าหน้าที่สังเกตมีคราบโคลนติดตัวจึงสอบสวนและเค้นหนัก สุดท้ายให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ เนื่องจากเมาสุราและพยายามข่มขืน ด.ญ.บี แต่เกิดการขัดขืนจึงบีบคอหลานสาวตัวเองจนเสียชีวิต และนำร่าง ด.ญ.บี โยนลงทิ้งแม่น้ำสงครามอำพรางคดีเพื่อหนีความผิด โดยคิดว่ากระแสจะพัดร่างลงสู่แม่น้ำโขงแต่ติดเวิ้งน้ำใกล้ที่เกิดเหตุจนเจ้าหน้าที่มาพบศพในเวลาต่อมา