นายเอสฆาตกรนั่งยางน้องพลอยไร้ความเครียดๆ แม้ถูกควบคุมตัวในห้องขัง สภ.แก่งคอย ขณะที่ตำรวจวางกำลังเข้มหวั่นถูกรุมประชาทัณฑ์ ในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 9 จุด ใน 3 จังหวัด ก่อนส่งตัวฝากขังที่ มทบ.18 วันพรุ่งนี้
พลตำรวจตรีชัยรัตน์ ทิพยจันทร์ ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสระบุรี ระบุว่า เมื่อวานทางพนักงาน สภ.หินซ้อนได้สอบสวนนายพลกฤษ วิเศษ หรือเอส ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงเวลาตี 1 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อว่า นายเอสจะลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว และจากนี้พนักงานสอบสวนของ สภ.หินซ้อน จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาข้อเท็จจริงถึงผู้อยู่เบื้องหลังของการก่อเหตุในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นายเอสก็ยังคงให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว
ขณะที่สีหน้าของนายเอสในวันนี้ยังคงปกติ ไม่เครียดหรือวิตกกังวลใดๆ โดยในช่วงเช้าก่อนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้มีญาติของนายเอสเดินทางเข้าเยี่ยม ซึ่งสิบเวร สภ.แก่งคอย อนุญาตให้เข้าไปเยี่ยมนายเอสได้เพียง 10 นาทีตามกฏระเบียบการเยี่ยมผู้ต้องหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัว นายเอสไปทำแผน ประกอบด้วย จุด 1 เอสขับรถมารอน้องพลอยที่ปั๊ม ปตท. ด้านข้าง โรงงานซีพีเอฟ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุด 2 หน้าโรงงานซีพีเอฟ สถานที่ที่น้องพลอยปั่นรถจักรยานออกมาหาโดยจุดนี้ เกิดความวุ่นวาย เพราะมีประชาชนจำนวนมากที่มุงดู โดยมีพ่อแม่น้องพลอยที่มาร่วมสังเกตุการณ์และต้องการพูดคุยกับนายเอส แต่ตำรวจไม่อนุญาต เพราะเกรงความไม่ปลอดภัย เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเสียงตะโกนด่า สาปแช่ง อาจจะเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ขึ้นได้ จุด 3 สะพานข้ามคลองชลประทาน 11 อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ทิ้งโทรศัพท์
จุด 4 หน้าโรงเรียนสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี คือจุดที่จอดรถบีบคอ เพราะหลังจากทิ้งโทรศัพท์ก็ทะเลาะกันมาตลอดทาง จุด 5-6-7 เป็นจุดที่ ทิ้งจักรยาน – กระเป๋า – นาฬิกาข้อมือ จุดที่ 8 เข้าไปภายในศูนย์ทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน ในเขต อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี และจุดที่ 9 ปั๊มน้ำมัน ปตท. ตรงข้ามศูนย์ทหารปืนใหญ่ ค่ายพหลโยธิน และนายเอสซื้อดีเซล 2 แกลอน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังเขตอำเภอหินซ้อนเพื่อทำการเผานั่งยาง ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการทำแผนวันนี้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.หินซ้อนจะส่งตัวนายเอสให้กับทาง มทบ.18 เพื่อฝากขังในวันพรุ่งนี้