โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจง การลอบสังหาร ครูสอนศาสนาเจ้าของโรงเรียนปอเนาะ จ.ปัตตานี ที่คนร้ายได้ใช้อาวุธปืน ลอบยิงราษฎรเสียชีวิต 1 ราย
พันเอก ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงกรณีเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 60 ที่ผ่านมามีคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ลอบยิงราษฎรเสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้ามัสยิดภายในโรงเรียนมูลนิธิชุมชนอิสลาม บ้านปะแดลางา หมู่ที่ 5 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทราบชื่อภายหลัง คือ นายอาแว เตาะสาตู อายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนายอาตีฟ เตาะสาตู ลูกชาย ได้รับบาดเจ็บ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้ ในนามของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ พี่น้องประชาชน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับญาติและครอบครัวของ นายอาแว เตาะสาตู ซึ่งถือเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญทางศาสนาอิสลามที่ยึดมั่นศรัทธาในหลักคำสอนทางศาสนาที่ถูกต้อง ซึ่งเกิดจากการกระทำของกลุ่มคนร้ายที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง เผด็จการและก่อการร้าย ที่สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์มาอย่างต่อเนื่องตลอด 13 ปีที่ผ่านมา โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนยุติธรรมโดยเร็วที่สุด รวมทั้งให้สร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการบิดเบือนกลับกลอกและโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มเครือข่ายแนวร่วมใส่ร้ายว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
นายอาแว เตาะสะตู ปัจจุบันเป็นอุสตาสสอนศาสนา และเป็นเจ้าของโรงเรียนมูลนิธิชุมชนอิสลาม ซึ่งนอกจากเป็นบุคคลที่ยึดมั่นศรัทธาในหลักคำสอนทางศาสนาที่ถูกต้องแล้ว ยังเข้ามามีส่วนร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ในการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธีในมิติทางด้านศาสนา โดยเป็นแกนนำคนสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการกำปงตักวาหรือชุมชนศรัทธา จนได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังได้รับแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาด้านการเสริมสร้างความยุติธรรมของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน โดยตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมาได้เข้ามามีส่วนช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ช่วยรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ผู้เห็นต่างจากรัฐเข้ามารายงานแสดงตนตามโครงการพาคนกลับบ้าน ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายโครงการพาคนกลับบ้าน ทำให้สามารถนำกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่ต้องการยุติการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรง เข้ามารายงานตัวแสดงตนตามกระบวนการยุติธรรมเป็นจำนวนมาก และในขณะเดียวกันยังได้ร่วมประกาศจุดยืนต่อต้านการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรณรงค์ต่อต้านการใช้ความรุนแรงในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ
ผลสัมฤทธิ์จากการเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหาตามแนวทางสันติวิธีภายใต้หลักศรัทธาในคำสอนทางศาสนาที่บริสุทธิ์ตามแนวคิดกำปงตักวา และต่อต้านการใช้ความรุนแรงตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้สามารถเสริมสร้างความเข้าใจในมิติทางศาสนาที่ถูกต้อง สร้างภูมิคุ้มกันสิ่งชั่วร้ายภายใต้กฎของชุมชน ที่เข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างยั่งยืน จึงอาจกล่าวได้ว่านายอาแว เตาะสาตู เป็น “วีรบุรุษสันติวิธี” อย่างแท้จริง