ดีเอสไอ เตรียมออกหมายเรียก แม่มณี โกงแชร์หลายร้อยล้านสอบปากคำ พบมีผู้เสียหายทุ่มหมดตัวนำเงินซื้อเครื่องช่วยหายใจลูกร่วมลงทุน พร้อมเร่งสอบโยง มะนาว โซฮอต
28 ต.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เสียหายจาก แชร์แม่มณี ทั่วประเทศกว่า 200 คน นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องทุกข์กับนายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ดำเนินคดีกับนางสาว วันทนีย์ ทิพย์ประเวช หรือ แม่มณี หลังถูกหลอกให้ร่วมลงทุนเล่นแชร์ออนไลน์ เสียหายหลายร้อยล้านบาท
ตัวแทนผู้เสียหาย เผยว่า จุดเริ่มต้นร่วมลงทุนแชร์แม่มณีผ่านเฟซบุ๊ก เริ่มจากเพื่อนชักชวนอ้างว่าได้ผลตอบแทนต่อเดือนสูงถึง 93% ของเงินลงทุนทั้งหมด เช่น ลงทุน 1,000 บาท จะได้รับผลตอบแทน 930 บาท รวมเป็น 1,930 บาท ที่หลงเชื่อเพราะมีการตรวจสอบโปรไฟล์พบแม่มณีมีธุรกิจจำนวนมาก ทั้งร้านทอง บ้านพักพูลวิลล่า สถานบันเทิง รวมทั้งสนิทสนมกับบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง อีกทั้งการลงทุนในระยะแรกได้ผลตอบแทนตรงไปตรงมา จึงเพิ่มเงินลงทุนมากขึ้น และชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุนอีกจำนวนหนึ่ง กระทั่งผ่านไป 2-3 เดือน กลับไม่ได้รับผลตอบแทนและไม่สามารถติดต่อได้อีก

ผู้เสียหายอีกคน กล่าวต่อว่า รู้จักแม่มณีผ่านกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อ-ขายเสื้อผ้าเด็ก ก่อนถูกชักชวนให้ร่วมลงทุน ซึ่งตัวเองสนใจเพราะต้องหาเงินเลี้ยงลูกที่ป่วยเพียงลำพัง และต้องการซื้อเครื่องช่วยหายใจใหม่ให้กับลูก จึงเริ่มลงทุนจากเงิน 1,000 บาท ก่อนเพิ่มขึ้น และนำเงินเก็บก้อนสุดท้าย 30,000 บาท ไปลงทุน
ด้านผู้อำนวยการกองธุรกิจการเงินนอกระบบ ดีเอสไอ กล่าวว่า เตรียมตรวจสอบรวบรวมหลักฐาน เกี่ยวกับธุรกิจของแม่มณีทั้งหมดว่ามีอยู่จริงและทำกำไรได้ถึง 93% หรือไม่ ก่อนจะออกหมายเรียกมาสอบปากคำในสัปดาห์หน้า โดยเชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทยส่วนแม่ข่ายที่ชักชวนผู้อื่นร่วมลงทุน จะตรวจสอบเจตนาว่าเป็นการชักชวนโดยสุจริต หรือ จงใจหลอกให้ลงทุน

เบื้องต้นดีเอสไอพบว่ามีผู้เสียหายมากกว่า 300 คน มูลค่าความเสียหายหลักร้อยล้านบาท ส่วนผู้ที่เสียหายสูงสุดมูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท ซึ่งจะเกี่ยวข้องนางสาวจุฑาทิพย์ นิ่มนวล หรือ มะนาว เจ้าสาวถูกหลอกแต่งงาน หรือไม่ ต้องตรวจสอบก่อนเพราะยังไม่มีข้อมูล
ทั้งนี้ดีเอสไอยืนยันว่าจะเร่งรัดดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยจะประสานกับตำรวจเพื่อรับโอนคดีบางส่วนที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความก่อนหน้านี้ จากนั้นจะใช้มาตรการทางภาษีและการอายัดทรัพย์ของผู้กระทำผิดคืนให้ผู้เสียหาย
