พรุ่งนี้ กรมสรรพสามิต นำกฎหมายโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ในสินค้า 3 รายการ เข้าครม.พิจารณาเพื่อให้มีการประกาศบังคับใช้จริงได้พร้อมกับ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.นี้
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จะนำกฎหมายโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ในสินค้า 3 รายการ ได้แก่ สุรา ยาสูบ ไพ่ เสนอให้ ครม.พิจารณาในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เพื่อให้มีการประกาศบังคับใช้จริงได้พร้อมกับ พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตฉบับใหม่ ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.นี้ หรือเริ่มตั้งแต่เที่ยงคืน 1 นาทีของคืนวันที่ 15 ก.ย.เป็นต้นไป โดยในพ.ร.บ.ฉบับใหม่ จะเป็นการปฏิรูปการคำนวณ และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ทั้งหมด โดยรวมกฎหมายสรรพสามิตจากที่มีอยู่ 7 ฉบับรวมเป็นฉบับเดียว เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรมกับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม
มาดูกฎหมายสรรพสามิต 7 ฉบับที่ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน คือ กฎหมายว่าด้วยสรรพสามิต , กฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ,กฎหมายว่าด้วยสุรา, กฎหมายว่าด้วยยาสูบ ,กฎหมายว่าด้วยไพ่ ,กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสรรพสามิต ,และกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรเงินภาษีสุรา, เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส เป็นสากล และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีมากขึ้น
สำหรับการพิจารณาอัตราภาษีบาป โดยเฉพาะสุรา และยาสูบแบบใหม่ กรมสรรพสามิตจะมีการจัดเก็บภาษีทั้ง 2 ขา คือ ขามูลค่า และขาปริมาณ จากเดิมที่เลือกเก็บเพียงขาใดขาหนึ่งที่เสียมากสุด โดยแนวทางใหม่จะเก็บทั้งภาษีตามความฟุ่มเฟือย หรือตามราคาจำหน่าย ซึ่งจะทำให้สินค้าที่มีราคาขายแพงต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าสินค้าราคาถูก และอีกขาหนึ่งจะเป็นการเก็บตามปริมาณที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น ยาสูบที่มีน้ำหนักต่อมวนมากก็จะถูกเก็บภาษีแพงกว่าที่มีมวนขนาดเล็ก
ทั้งนี้หลังจากที่โครงสร้างภาษีบาป หรือสุรา ยาสูบผ่าน ครม.แล้ว คาดว่าจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในคืนวันที่ 15 ก.ย.หรือช่วงเช้าของวันที่ 16 ก.ย. เพื่อต้องการดูแลไม่ให้ตลาดเกิดความแตกตื่น หรือมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันในการกักตุน
ส่วนภาษีอื่นที่ผ่าน ครม.ไปก่อนหน้านี้น่าจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ช่วงกลางสัปดาห์นี้ และทั้งหมดจะบังคับใช้พร้อมกันเริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น.ของคืนวันที่ 15 ก.ย. เป็นต้นไป โดยเริ่มเก็บภาษีใหม่นับจากเวลาสินค้าที่ออกจากโรงงานผลิต หรือหากเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ก็จะนับจากเวลาที่ผ่านด่านศุลกากรเข้ามา
ทั้งนี้ปัจจุบันมีการเก็บภาษีเพื่อไปใช้จ่ายเพื่อการเฉพาะ หรือภาษีบาป 3 ด้าน คือ 1. จัดเก็บให้กับกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จำนวน 2% หรือประมาณปีละ 4,271 ล้านบาท 2. สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส 1.5% แต่ไม่เกิน 2,000 ล้านบาทต่อปี และ3.เก็บให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ 2% หรือประมาณ 4,271 ล้านบาทต่อปี