โรงงาน ย่านบ่อวิน – มีรายงานว่าในสื่อสังคมออนไลน์ แชร์ภาพเอกสารร้องเรียนไปยังหน่วยงานกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม แจ้งถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานอุตสาหกรรม ตลอดจน กรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ตรวจสอบ โรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี
ซึ่งในเนื้อหาระบุว่า กลุ่มผู้ร้องเรียนเป็นชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการอุตสาหกรรมจากโรงงานขนาดใหญ่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง พื้นที่ ม.4 ถนนหลวง สาย 331 ซึ่งในรายละเอียดยังระบุว่าได้รับผลกระทบจากของเหลวที่ไหลสงสู่ทางน้ำสาธารณะ จนกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งก่อนหน้านี้เคยร้องเรียนให้ตรวจสอบแล้วหลายครั้งแต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งครั้งนี้ หากยังไม่มีความคืบหน้าเตรียมเดินทางเข้าขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ทีมข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่ปากซอยในนิคมอุตสากรรม มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งประกอบกิจการขนาดใหญ่ ขณะเดียวกันยังอยู่ใกล้ โรงบำบัดและบ่อคัดกรองน้ำ ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันยังอยู่ห่างจากพื้นที่ชุมชนไปอีกเกือบ 1 กิโลเมตร
ต่อมา ทีมข่าวเข้าตรวจสอบบริเวณชุมชน ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อนิคมดังกล่าว โดยในชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งท้ายซอยเป็นทางน้ำชลประทาน ทอดผ่านพื้นที่ระหว่างชุมชนและนิคม ทั้งนี้ ชาวบ้านรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า อยู่ในชุมชนนี้มามากกว่า 30 ปี ส่วนนิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ แม้พื้นที่ใหญ่โต หากแต่เพิ่งดำเนินกิจการได้เพียง 1 ปีเศษ ยอมรับว่า หลังมีการตั้งโรงงานดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้กับทางน้ำ สังเกตว่าน้ำเริ่มไม่มีสภาพปกติ ยามค่ำคืนได้รับมลภาวะทางเสียงและกลิ่น
ก่อนหน้านี้เคยมีเจ้าหน้าที่ไม่ทราบหน่วยงาน ลงพื้นที่มาตรวจสอบมลภาวะสิ่งแวดล้อมหลายครั้ง แต่ไม่มีการแจ้งผลให้ชาวบ้านทราบ สำหรับประเด็นที่มีการแจ้งให้เข้ามาตรวจสอบครั้งล่าสุด อาจเป็นกลุ่มชาวบ้านที่ต้องการให้มีหน่วยงานมาตรวจสอบอย่างจริงจังและแจ้งผลให้ทราบบ้านทราบเพื่อคลายความสงสัย
ชาวบ้านยังให้ข้อมูลน่าสนใจอีกว่า โรงงานอุตสาหกรรมในเอกสารร้องเรียน เป็นโรงงานผลิตแผ่นพลังงานแสงอาทิตย์ ของกลุ่มผู้ประกอบการชาวไต้หวัน และ พนักงานส่วนใหญ่เป็น กลุ่มเชื้อสายจีน
แต่ทั้งนี้มีชาวบ้านบางส่วน ที่ให้ข้อมูลเช่นกันว่า การดำเนินกิจกรรมของโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมดังกล่าว ไม่เกิดผลกระทบกับพื้นที่พักอาศัย โดยกลุ่มนี้จะมีที่พักอยู่ห่างจากพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมหรือเขตนิคมตั้งแต่ ประมาณ 2 กม. นอกจากนี้ ยังเป็นชุมชนที่ไม่ได้อยู่ใกล้เส้นทางน้ำผ่าน
