หวั่นใจโดนฟ้อง Call Out ไม่ใช่ Fake News มันเหมือนกันหรอทำไมโดนฟ้องล่ะ

เอ๊ะ ชักหวั่นใจโดนฟ้อง ออกมา Call Out แต่ทำไมเราโดนฟ้องว่าสร้าง Fake News ทำความเข้าใจใหม่ Call Out ≠ Fake News อย่างที่โดนกล่าวหากข้อมูลถูกต้องงานนี้ต้องมีคนมั่ว

Call Out ไม่ใช่ Fake News – จากกรณีที่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ออกมาพูดส่วนหนึ่งถึงดาราที่มา Call Out ว่า อย่าใช้สิ่งเหล่านี้เคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล เพราะสิ่งที่ทำเป็นการบิดเบือนข้อมูล เป็นการสร้างFake News ในระบบคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงกรณีที่นายสนธิญา ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบดารานักแสดงจนเหล่าคนบันเทิงออกมาแสดงจุดยืนไม่พอใจเกี่ยวกับการไม่เคารพอาชีพและเสรีภาพ โดยนายชัยวุฒิ กล่าวว่า

” กลุ่มดารานักแสดง Influencer เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรักและศรัทธา ขอความกรุณาอย่าใช้สิ่งเหล่านี้เคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล เพราะสิ่งที่ทำเป็นการบิดเบือนข้อมูล เป็นการสร้างเฟกนิวส์ในระบบคอมพิวเตอร์ ท่านพูดแต่ว่าทุกวันนี้มีคนตายเป็นจำนวนมากเพราะโควิด เนื่องจากวัคซีนไม่ดีและเป็นความผิดของรัฐบาล แล้วมันจริงหรือไม่ ขอให้อย่ามองเพียงด้านเดียว ต้องนึกถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมา ได้จัดหาวัคซีนมาอย่างดีตามมาตรฐาน เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเราตอนนี้”

ล่าสุดได้มีรายชื่อเหล่าคนบันเทิงที่ถูกเปิดเผยชื่อแล้วว่าเข้าข่าย Call Out โจมตีรัฐบาลสร้าง Fake News ให้ประชาชนเข้าใจรับบาลผิด ทั้งยังมีกรณีล่าสุดที่ มิลลิ หรือ ดนุภา คณาธีรกุล แร็ปเปอร์สาวชื่อดัง มาตรา 393 ดูหมิ่นโดยการโฆษณา พร้อมสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท จากนั้น มิลลิ เดินทางออกจากโรงพักนางเลิ้งทันที โดยยืนยันว่ายังจะ Call Out ต่อไป

ทั้งนี้อาจมีคนสับสนว่าการที่เหล่าคนบันเทิงออกมา Call Out นั้นมันเหมือน Fake News หรือไม่อย่างไร เดี๋ยวจะสรุปสั้นๆให้อ่านกันจะได้รู้ว่ามันไม่คือกัน

Call Out คือ..

Call Out นั้นถ้าจะแปลความหมายตรงตัวก็คือ ออกมาพูด เป็นการแสดงจุดยืน ทำให้เห็นถึงทัศนคติ ความคิดที่มีต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการ Call Out หรือ ออกมาแสดงจุดยืน ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเรียกว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานและสามารถพึงกระทำได้ในหลักสากล อย่างกรณีในบ้านเราที่กำลังมีการเรียกร้องให้คนบันเทิงออกมาก็เพราะว่าการ Call Out ที่มีประสิทธิภาพจะต้องมาจากคนมีชื่อเสียงที่จะเป็นกระบอกเสียงในการช่วยกระจายเรื่องนั้นๆเพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการรวมกลุ่มคน การส่งเรื่องร้องทุกข์ให้ถึงผู้มีอำนาจ ซึ่งทำได้หลายรูปแบบแล้วแต่เนื้อหานัยยะสำคัญที่จะสื่อ อาจทำได้ทั้งบทกวี งานศิลป์ เพลง ฯลฯ

Call Out ตามความหมาย พจนานุกรม

Call Out [Phrasal Verbs] ตะโกนเรียก
Call Out [Phrasal Verbs] เรียกให้มาช่วย
Call Out [Phrasal Verbs] ทำให้เห็น
Call Out [Phrasal Verbs] แสดงจุดยืน
Call Out [Phrasal Verbs] เชิญให้ออกมาต่อสู้

Fake News คือ…

ทาง First Draft News องค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับข่าวปลอม ได้ ให้นิยาม 7 รูปแบบของข่าวปลอมไว้อย่างน่าสนใจ และเรียงตามความรุนแรง เธอได้ไอเดียจากการศึกษาข่าวปลอมบนโลกออนไลน์ในช่วงการเลือกตั้งปี 2016 ที่จุดประเด็นเรื่อง Fake News

1.Satire or Parody เสียดสีหรือตลก

ไม่ได้มีเจตนาในการสร้างความเข้าใจผิดหรือมีวัตถุประสงค์ต้องการให้คนมาเชื่อ เช่นการนำเรื่องที่ทุกคนทราบดีเกี่ยวกับข้อเท็จจริงอยู่แล้วมาล้อเลียนขำๆเช่น นายกเป็นแบทแมน

2.False connection โยงมั่ว

การโยงมั่วคือการที่สองสิ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยแต่ถูกนำมากล่าวถึงในข่าวเดียวกันหรือทำให้มาเชื่อมโยง หรือความไม่รู้ไม่เข้าใจของคนเขียนข่าวหรือทำคอนเทนต์ เช่น น้ำมะนาวรักษาโรคมะเร็ง

3.Misleading ทำให้เข้าใจผิด

Misleading คือการเขียนข่าวหรือทำคอนเทนต์โดย จงใจให้เข้าใจผิด หรือการใช้คำอย่างนึงเพื่ออธิบายอีกอย่างนึง พอโดนจับได้ก็จะแถว่าก็เข้าใจผิดเองทั้ง ๆ ที่ตอนแรกคือหวังให้เขาเข้าใจผิดอยู่แล้ว จะพบเห็นได้บ่อยกับพวกข่าวการเมือง เช่น นายกสั่งวัคซีนไฟเซอร์ 2 พันล้านโดสให้คนไทย

4.False Context ผิดที่ผิดทาง

กรณี False Context หรือ Quoting out of context คือการที่เอาสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เช่น รูป, ข้อความ, คำพูด แต่เอามาใช้แล้วพูดถึงอีกเรื่องนึง เช่น นำภาพเชียงใหม่หิมะตกมาแล้วบรรยายว่าเป็นอเมริกา

5.Impostor มโนที่มา

การมโนที่มาคือการรายงานข่าวแบบปกติ แล้วถ้าไม่ตรวจสอบดี ๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าเป็น Fake News รูปแบบของมันคือการอ้างไปยังบุคคลหรือแหล่งข่าวเช่น คนนี้กล่าวไว้ว่า, นายกกล่าวไว้ว่า หรือ คนนู้นคนนี้เคยกล่าวไว้ว่า

6.Manipulated ปลอม ตัดต่อ

การ Manipulated คือการปลอมหรือตัดต่อ ความรุนแรงของมันคือถ้าไม่สังเกตเราจะดูไม่ออก เช่น การตัดต่อภาพ, เสียง, วิดีโอ หรือแม้กระทั่งการเอา logo สำนักข่าวอื่นมาแอบอ้าง

7.Fabricated มโนทุกอย่างเลย

การ Fabricated คือขั้นที่รุนแรงที่สุดของ Fake News ตัวอย่างของมันเช่นการปลอมมันทั้งเว็บ เช่น การปลอมเป็น ข่าวสด ปลอมเป็นไทยรัฐ หรือการปลอมเป็นบุคคล แล้วรายงานข่าว อันนี้ร้ายแรงมาก เนื่องจากคนก็จะเข้าใจว่าเป็นสำนักข่าวนั้นจริง ๆ และก็ไม่ได้เป็นการล้อเลียนหรือ Parody

ซึ่งการ Call Out หากทำโดยมีข้อเท็จจริงอยู่แล้ว แม้จะเป็นการพูดถึงเรื่องในแง่ลบเกี่ยวกับรัฐบาลก็ไม่ถือว่าเป็น Fake News หากมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์อ้างอิง ก็ให้เก็บหลักฐานนั้นไว้ป้องกัน การถูกฟ้องจากหน่วยงานรัฐในกรณีที่การ Call Out นั้นๆ ทำให้กลุ่มบุคคลนั้นๆเสียผลประโยชน์ สำคัญคือ Call Out ต้องระมัดระวังการหยิบข้อมูลมาประกอบต้องเช็กให้ดีว่าแหล่งที่มานั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะหากผู้ Call Out ซึ่งไม่ได้จงใจบิดเบือข้อมูลแต่เกิดการขนาดความรู้ที่แน่ชัด ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนก็อาจจะเข้าข่าวการ สร้างFake News นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท